ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง #หัวหน้าพรรคประชาชาติในฐานะ รมว.ยุติธรรม พร้อมคณะ ประกอบด้วย นายกูเฮง ยาวอหะซัน เลขาธิการ รมว.ยุติธรรม นายธนาวิทย์ ไชยานุพงศ์ คณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคประชาชาติ และนายกูเซ็ง ยาวอหะซัน นายก อบจ.นราธิวาส
ได้ร่วมเดินทางไปร่วมงานฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 86 ปี พระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 และเจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส ที่ศิษยานุศิษย์ทั้งไทยพุทธและมุสลิมที่เลื่อมใสศรัทธาได้จัดขึ้น ณ วัดประชุมชลธารา
ภายในงานมีพิธีทักษิณานุประทาน โดยพระสงฆ์ทรงสมณศักดิ์ จำนวน 20 รูป เจริญชัยมงคลคาถา เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวชิรมังคลาจารย์ เจ้าคณะหนใต้ กล่าวสัมโมทนียกถา หลังจากนั้นกลุ่มสตรี 150 คน ได้ร่วมกันรำถวายเพื่อแสดงความยินดีเนื่องในโอกาสฉลองอายุวัฒนมงคล ครบ 86 ปี โดยมี พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม และแขกผู้มีเกียรติที่เดินทางมาร่วมงานกว่า 2,000 คน ร่วมรับชมและพร้อมแสดงความยินดีในการนี้ด้วย
จากนั้นพระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เจ้าอาวาสวัดประชุมชลธารา ได้กล่าวขอบคุณผู้ที่มาร่วมแสดงความยินดี โดยเฉพาะพี่น้องมุสลิมที่แสดงออกถึงความมีน้ำใจไมตรีที่ดีไม่มีการแบ่งแยกศาสนา ทั้งนี้งานฉลองอายุวัฒนมงคลเป็นความตั้งใจของศิษยานุศิษย์ที่ต้องการจัดงานให้ จึงขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่มาร่วมจัดงาน และมาร่วมงานได้เห็นบรรยากาศของความสามัคคีปรองดองของพี่น้องประชาชนไทยพุทธ และมุสลิมถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง
ด้าน พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า พระธรรมวัชรจริยาจารย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 18 เป็นพระนักปฏิบัติที่เป็นต้นแบบของการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ ของประชาชนทั้งไทยพุทธและมุสลิม และมีเมตตาธรรมในการให้ความช่วยเหลือโดยไม่แบ่งแยกศาสนา อีกทั้งยังทำให้วัดประชุมชลธาราแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางของการจัดกิจกรรม และเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ลดปัญหาการสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นกับประชาชนทั้ง 2 ศาสนา จนส่งผลให้ชุมชนในพื้นที่อำเภอสุไหงปาดีมีความเข้มแข็ง เห็นผลในเชิงประจักษ์ จนสามารถสร้างสังคมพหุวัฒนธรรมให้เกิดขึ้น
ในขณะที่บรรยากาศภายในวัดประชุมชลธาราเป็นไปด้วยความคึกคัก ได้มีทั้งชาวไทยพุทธมุสลิมและส่วนราชการ ต่างพากันทำอาหารคาวหวาน จากครัวไทยและครัวฮาลาล จำนวนกว่า 100 บูธ มาแจกจ่ายให้ผู้ที่เดินทางมาร่วมงานได้รับประทานฟรีอย่างอิ่มหนำสำราญในครั้งนี้ด้วย
ด้าน พ.ต.อ.ทวี รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ในส่วนกรณีเหตุโกดังเก็บดอกไม้ไฟที่มูโนะระเบิด เมื่อปลายเดือนกรกฏาคมปี 66 ที่ผ่านมา #มีผู้เสียชีวิต11คน และได้รับบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะทรัพย์ที่ได้รับความเสียหาย ในด้านการช่วยเหลือเยียวยาก็เข้ามาแต่ไม่สมบูรณ์ ในส่วนที่ถามกันมากคือ #ในส่วนของผู้รับผิด เท่าที่ได้รับรายงานทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่า #มีข้าราชการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตหลายหน่วยงาน ซึ่งอำนาจหน้าที่ในการสอบสวนเป็นของ ปปช.ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ส่งสำนวนไปแล้ว
แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับความล่าช้าคือความอยุติธรรมชนิดหนึ่ง…ตอนนี้ชาวบ้านก็รอว่า เหตุการณ์เป็นอย่างไรในส่วนของกระทรวงยุติธรรม ได้สั่งการให้กรมสอบสวนคดีพิเศษทำการสอบสวนคู่ขนาน เพราะว่าฐานความผิดของคดีปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริตนี้ มันไปสู่เรื่องการฟอกเงินซึ่งการฟอกเงินเป็นอำนาจของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ก็ได้รับรายงานข้อมูลมาระดับหนึ่ง อยากจะเรียนว่าเรื่องนี้ การเยียวยาด้วยทรัพย์สินก็ยังไม่ใช่การเยียวยาทางจิตใจ คือจิตใจของประชาชนต้องการความยุติธรรมความเป็นธรรม คือชีวิตที่เสียไป 11 คนมันเรียกกลับคืนมาไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาอยากรับรู้ว่าญาติเขาเสียได้รับความเป็นธรรมอย่างไร
ทีมข่าวแอดชายแดนใต้
