ศาลตัดสินจำคุกยาวรวม 8 ปี อัยย์ สำนึกผิด ขอโทษโพสต์หมิ่น วันนอร์’ชี้ เมตตา คือชัยชนะ(คลิป)

0
1291
     วันนี้ (27 พ.ค.66) นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ในฐานะโจทก์ ได้มอบหมายให้นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ทนายความ ฟ้องนายอัยย์ เพชรทอง เป็นจำเลยในข้อหาหมิ่นประมาท คดีหมายเลขดำที่ อ370/2566 ซึ่งเป็นคดีที่ 2 ที่ถูกฟ้อง โดยจำเลยได้โพสต์ใส่ร้ายในเฟสบุ๊คว่าโจทก์เป็นหัวหน้าโจรและกล่าวหาพรรคประชาชาติว่าเป็นพรรคโจร ซึ่งเป็นการปลุกปั่นสังคมด้วยข้อมูลเท็จ โดยได้โพสต์เผยแพร่ซ้ำๆ แม้จะถูกศาลตัดสินลงโทษจำคุกรวม 8 ปีในคดีหมิ่นประมาทก่อนหน้านี้ไปแล้ว โดยในวันนี้ศาลยะลาได้นัดสืบพยาน ซึ่งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา พร้อมทนายความและพยานได้เดินทางไปที่ศาลจังหวัดยะลา ขณะที่นายอัยย์ เพชรทอง ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ต้องขังที่เรือนจำสงขลา ถูกเบิกตัวจากเรือนจำมาที่ศาล โดยถูกล่ามโซ่ที่ข้อเท้าและล็อคข้อมือไว้ ท่ามกลางการดูแลของตำรวจ 

https://youtu.be/OZaA97rzLGY
   
   นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ ในฐานะทนายความฝ่ายโจทก์ กล่าวว่า นายอัยย์ได้โพสต์ข้อความหมิ่นประชาชาติหลังจากหัวหน้าพรรคและ ส.ส.พรรคประชาชาติได้เดินทางกลับมาจากการทำพิธีอุมเราะห์ ที่ซาอุดีอาระเบีย โดยได้โพสต์ข้อความกล่าวร้ายต่างๆนานา ว่าเกี่ยวข้องกับกลุ่มก่อการร้าย เป็นพรรคโจรมุสลิม เป็นกบฏมุสลิม และกล่าวร้ายว่าเป็นพรรคโจรกบฏ โดยได้โพสต์ในเฟสบุ๊ค 3 บัญชีและเพจอีก 3 บัญชี จึงได้ฟ้องหมิ่นประมาทเป็นคดีที่สอง มีการไต่สวนแล้วพบว่ามีมูล จึงได้นัดสืบพยานโจทก์ในวันนี้ ซึ่งศาลได้เป็นตัวกลางเจรจาไกล่เกลี่ย ปรากฎว่านายอัยย์ได้สำนึกผิด และยอมรับผิดในสิ่งที่ได้กล่าวหา ว่าสิ่งที่โพสต์นั้นไม่เป็นความจริง และได้มีการขอโทษในห้องพิจารณาคดี และทางศาลได้บันทึกในรายงานกระบวนการพิจารณาว่าเขาได้ยอมรับผิด และกล่าวขอโทษต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา และพรรคประชาชาติ นั่นหมายความว่าสิ่งที่เขากล่าวหาทั้งหมดไม่เป็นความจริง

     นายมูฮัมหมัดรุสดี เชคฮารูณ รองโฆษกพรรคประชาชาติ ได้เดินทางไปในฐานะพยานฝ่ายโจทก์ เปิดเผยว่า นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ไม่เคยคิดอาฆาตมาดร้ายต่อผู้ใดเลย แม้ว่าท่านจะถูกใครกล่าวร้ายก็ตาม แต่กรณีของนายอัยย์นี้มีพฤติกรรมยุยงปลุกปั่นให้สังคมขัดแย้งแบะแตกแยกทางศาสนา จึงมีความอันตรายต้อสังคมหากปล่อยไว้เช่นนี้ ท่านจึงได้ฟ้องไปแล้วครั้งแรก โดยคาดว่าจะสำนึกและขอโทษ แต่จำเลยไม่สำนึก จึงดำเนินคดีไปตามกระบวนการยุติธรรม แต่ปรากฏว่าจำเลยก็ยังไม่หยุดพฤติกรรม ยังคงโพสต์หมิ่นประมาทอย่างต่อเนื่อง จึงได้ฟ้องอีกคดี ซึ่งคราวนี้ศาลพยายามไกล่เกลี่ยและเห็นว่าจำเลยสำนึกผิด ท่านวันนอร์ จึงบอกว่าเมื่อคนสำนึกผิดแล้วก็ให้อภัย เพราะเห็นว่าจำเลยมีภรรยาและครอบครัวต้องดูแล หากสู้คดีแล้วศาลสั่งจำคุกเพิ่มก็จะไม่เป็นผลดีต่อครอบครัว ท่านวันนอร์จึงเมตตาและประนีประนอมยอมความ โดยท่านนำพระบรมราโชวาทของในหลวง ร.9 ว่า ชนะใจ ยอมให้อภัย คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ 
ทีมข่าว@ชายแดนใต้