รอมฎอนสันติ ไม่เป็นผล ปะทะเดือด วิสามัญ 2 ศพ คนร้ายไม่ยอม หลังเจรจาเกลี้ยกล่อมนาน 3 ชม.

0
508

เมื่อเช้านี้ วันที่ 14 มีค. ผู้สื่อข่าวติดตาม การติดตามคนร้ายฝ่ายความมั่นคงซึ่ง พอ.สฐิรพงษ์ อาจหาญ ผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ พอ.ภาคภูมิ จันทรักษ์ ผบ.ทพ.44 นำกำลังร่วมกว่า 50 นาย เข้าทำการปิดล้อมตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 192/2 ม.1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส เนื่องจากได้รับแจ้งจากสายข่าวว่ามีบุคคลตามหมายจับคดีความมั่นคงเข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ภายในบ้านเช่าดังกล่าว จำนวน2- 3 คน เบื้องต้นน่าจะเป็นกลุ่มของ นาย อับดุลเลาะ มูดอ และ นายหมัดไซฟูดดีน ลอแม่ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับหลายหมาย
โดยเจ้าหน้าที่ได้บล้อคพื่นที่เป้าหมาย เมื่อไปถึงได้ทำการปิดถนนสายดังกล่าวทันที เนื่องจากเกรงว่าจะเกิดเหตุปะทะและประชาชนีาไม่เกี่ยวข้องจะได้รับอันตราย เจ้าหน้าที่ไปถึงพบว่าเป็นบ้านเช่าห้องแถวชั้นเดียวติดกัน 8 ห้อง บ้านต้องสงสัยเป็นห้องแรกเจ้าหน้าที่ได้ปิดล้อม พร้อมได้เรียกบุคคลภายในบ้านออกมา กระทั่งมีคนตะโกนออกมาจากบ้านก่อนจะเดินออกมา เจ้าหน้าที่ได้สอบถามและทราบว่ามีอีก 2 คนที่ซ่อนตัวและไม่ยอมออกมา เจ้าหน้าที่จึงได้เชิญผู้นำท้องที่มาเจรจาให้ออกมาแสดงตัว แต่ก็ไม่มีเสียงตอบรับ ไม่ยอมมอบตัวแต่อย่างใด
กระทั่งเวลา 07.00 น. เจ้าหน้าที่ยังคงใช้การเจรจาอย่างต่อเนื่องโดยการสลับผู้นำท้องที่และผู้นำศาสนาเพื่อหวังให้ผู้ต้องสงสัยมอบตัว ปรากฏว่าคนร้ายที่ซ่อนตัวในบ้านได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ที่พยายามปิดล้อมหน้าบ้าน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องกระโดดหลบกระสุน เมื่อเห็นว่าคนร้ายมีอาวุธ เจ้าหน้าที่จึงได้เพิ่มความระมัดระวังกันพื้นที่ให้ปลอดภัยพร้อมกับการเจรจาอย่างต่อเนื่อง แต่คนร้ายก็ยังคงยิงใส่เป็นระยะ ๆและถูกเจ้าหน้าที่ยิงตอบโต้ กันชุดแรก
ต่อมาเวลา 07.30 น. เจ้าหน้าที่ได้ยิงแก๊สน้ำตา จำนวน 2 ลูก ก่อนจะบุกเข้าไปภายในบ้านเพื่อหวังยุติเหตุรุนแรง แต่ปรากฏว่าไม่พบตัวคนร้าย จึงได้รีบออกมาจากตัวบ้าน พร้อมกับวางแผนอีกครั้ง โดยเชื่อว่าคนร้ายน่าจะขึ้นไปหลบซ่อนตัวบนฝ้าใต้หลังคา จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการใช้เหล็กยาวกระทุ้งฝาหลังจากนั้น ทำให้คนร้ายยิงสวนใส่เจ้าหน้าที่ จนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นเสียงดังสนั่นหวั่นไหว การปะทะเกิดขึ้นเป็นระยะ กระทั้งหนึ่งในคนร้ายถูกกระสุนปืนตกลงมาที่พื้นเสียชีวิตหนึ่งราย โดยข้างศพมีอาวุธปืน ขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก ส่วนคนร้ายที่เหลือยังคงหลบซ่อนตัว เจ้าหน้าที่ภายนอกยังคงเจรจาให้คนร้ายที่เหลือออกมามอบตัวเพื่อลดความสูญเสีย แต่คนร้ายไม่ฟังยังคงยิงต่อสู้และเกิดการปะทะกันสนั่นทำให้ฝ้าเพดานเปิดกว้างและเห็นตัวคนร้ายที่ใช้คานปูนเป็นกำบังทำให้ยากต่อการจับกุมและคนร้ายยังคงใช้อาวุธยิงสวนเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะถอยออกมาก่อน

จากนั้นเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ได้ใช้โดรนบินเข้าไปในบ้านเพื่อดูความเคลื่อนไหวของคนร้าย ก่อนจะเห็นตัวคนร้ายที่พยายามหนีไปอีกฝั่งของบ้านอีกหลังโดยการใช้คานปูนบังตัวไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้บุกเข้าไปอีกครั้งก่อนมีการยิงปะทะกันอีกระยะเกือบ 3 นาทีทำให้คนร้ายถูกยิงเสียชีวิตเป็นรายที่สองอยู่บริเวณคานใต้หลังคาด้านหลังบ้าน

จากการตรวจสอบคนร้ายที่เสียชีวิต เบื้องต้น ทราบชื่อ นายอุสมัน กือแน ผู้ต้องหาตามหมายจับ 1 หมาย และ
นายแพนดี หะยีวาเตะ หมายจับ 3 หมาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบให้ชัดอีกครั้งว่าใช่บุคคลทั้งสองหรือไม่
และจากการสอบถามบุคคลที่เช่าบ้าน ให้การว่า คนร้ายทั้งสองคนตนไม่รู้จัก แต่ทราบว่าได้ขอเช่าบ้านอีกหลัง อย่างไรก็ตามจากรายงานข่าวเชื่อว่าคนร้ายที่เสียชีวิตพยายามเคลื่อนไหวในพื้นที่ในช่วงรอมฎอนคาดว่าจะมีการก่อเหตุร้ายในพื้นที่ แต่โชคดีชาวบ้านได้แจ้งเจ้าหน้าที่ก่อนและเข้าตรวจสอบ กระทั่งคนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิตดังกล่าว เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นความรุนแรงเกิดขึ้นอีกครั้ง เหตุการณ์ ยังต่อเนื่องกับเดือนที่ผ่านมา มีการวางระเบิด ลอบยิงเจ้าหน้าที่ อส. ทำให้ สภานการณ์ยังย้อนแย้ง กับเวทีพูดคุยสันติสุข ที่มีการพูดถึง รอมฎอนสันติก่อนหน้านี้ จะมีการหยุดยิง ลดเหตุรุนแรง เพียงวันที่ 3 ของรอมฎอนก็เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบอีกครั้ง วันเดียวกันขณะเดียวกับที่ รมต.ว่าการกระทรวงมหาดไทยลงพื้นที่ปัตตานี มอบนโยบายด้วยเช่นกัน

คืบหน้าปะทะรู้ตัว 2 คนร้ายถูกวิสามัญมีหมายจับ

ภายหลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงในพื้นที่ จ.ปัตตานี ได้ปิดล้อมตรวจค้นบ้านเช่าเลขที่ 192/2 ม.1 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี ตั้งอยู่ริมถนนสายปัตตานี-นราธิวาส และได้เกิดเหตุการยิงปะทะกันขึ้น โดยคนร้ายอาศัยความคล่องตัวขึ้นไปหลบซ่อนตัวบนฝ่าเพดานใต้หลังคาบ้านหวังให้เจ้าหน้าที่เข้าใจว่าคนร้ายหลบหนีไปแล้ว แต่ด้วยไหวพริบของเจ้าหน้าที่รู้ว่าคนร้ายได้ลอดช่องฝ่าเพดานหลบอยู่ใต้หลังคา กระทั่งทั้งสองฝ่ายพจญหน้ากันจนเกิดการยิงปะทะกันขึ้นเป็นระยะยาวนานเกือบ 6 ชั่วโมงจนเป็นเหตุให้คนร้ายถูกวิสามัญเสียชีวิต 2 ศพ เหตุเกิดเมื่อเช้าวันที่ 14 มีค.ที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้าล่าสุด เวลา 12.30 น. หลังเหตุปะทะ เจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการเคลียร์พื้นที่บริเวณภายในบ้าน พบศพคนร้ายศพแรกตกจากฝ่าเพดานลงในห้องครัว ทราบชื่อ นายอุสมัน กือแน อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 62 ม.1 ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี ข้างศพมีอาวุธปืน ขนาด .38 ตรวจสอบมีหมายจับ 1 หมาย คดีเหตุปะทะบริเวณโรงเรียนปอเนาะแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.สายบุรี แต่หลบหนีไปได้ เหตุครั้งนั้นเจ้าหน้าที่วิสามัญคนร้าย 2 ศพ เมื่อวันที่ 5 กค.64

อีกรายเจ้าหน้าที่พบศพคนร้ายตกจากฝ่าเพดานอยู่ในห้องน้ำหลังบ้าน ทราบชื่อ นายแพนดี หะยีวาเตะ อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 200 ม.1 ต.ตะบิ้ง อยู่.สายบุรี จ.ปัตตานี ใกล้กันพบอาวุธปืน ขนาด 9 มม. ตรวจสอบมีหมายจับ 3 หมาย ประกอบด้วย 1.คดีปล้นรถขนนมโรงเรียน เมื่อวันที่ 30 สค.56 2.คดีลอบวางระเบิดทหารพราน ร้อย ทพ.4412 เสียชีวิต 4 นายบาดเจ็บ 5 นาย เมื่อวันที่ 22 กย.60 และ 3.คดีลอบยิงทหารพราน ร้อย ทพ.4411 ไม่ได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 17 มิย.59 โดยร่างทั้งสองเจ้าหน้าที่ได้นำไป รพ.สมเด็จพระยุพราชสายบุรี เพื่อทำการชันสูจน์พลิกศพอีกครั้ง ก่อนจะประสานญาติมารับศพกลับไปประกอบทางศาสนา

ด้าน พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภาค 9 ได้สั่งการในยังฐานปฏิบัติการณ์และด่านตรวจในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ให้วางกำลังคุมเข้ม ตรวจสอบรถทุกชนิดและบุคคลต้องสงสัยสถานที่ราชการ และเฝ้าระวังความปลอดภัยขณะปฏิบัติหน้าที่เพื่อป้องกันเหตุตอบโต้จากกลุ่มก่อความไม่สงบ โดยเฉพาะดูแลความปลอดภัยประชาชนในห้วงเดือนรอมฎอน เนื่องจากมีรายงานความเคลื่อนไหวกลุม่ก่อเหตุว่าจะมีการก่อกวนในพื้นที่

ทีมข่าว แอดชายแดนใต้ ปัตตานี