สาววัย 17 ต้องขาดเรียนถึง 8 เดือนเพราะป่วยหน้าตาบวมกินไม่ได้นอนทรมาน ไม่รักษาจนน้ำหนักหาย20กก. สธ.พร้อมนายกเหล่ากาชาด รุดดูแล เร่งให้การช่วยเหลือ

นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปัตตานี นางอนุรี วิศิษฎ์วงศ์ นายกเหล่ากาชาด จ.ปัตตานี นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอหนองจิก พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 31/2 ม.5 ต.ท่ากำชำ อ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อไปเยี่ยม นส.ตอฮีเราะ สามะ อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.4 โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามแห่งหนึ่งในพื้นที่ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้ทราบข่าวว่า นส.ตอฮีเราะ ป่วยด้วยโรคไม่ทราบสาเหตุทำให้หน้าตาบวมมาก หายใจไม่ออก ตาขวาปิด สภาพร่างกายผอมแห้ง น้ำหนักลดไปกว่า 20 กิโลกรัม เนื่องจากรับประทานอาหารไม่ได้ โดยอาการเริ่มเป็นมาตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ผู้เป็นพ่อและแม่เคยนำตัวไปรักษาที่ รพ.หนองจิก มาก่อนแล้วเนื่องจาก นส.ตอฮีเราะ มีอาการปวดหัวรุนแรงจนเรียนไม่ได้ ซึ่งหมอก็ได้ให้ยาบรรเทาปวด แต่ไม่หาย พ่อจึงพาไปตรวจอีกครั้ง โดยครั้งนี้หมอวินิฉัยว่าอาจจะเป็นปัญหาฟันคุดที่ทับเส้นประสาท หมดจึงได้ถอนออกไปแต่อาการก็ไม่หาย จนครั้งที่ 3 หมอจึงนำชิ้นเนื้อไปส่งตรวจที่ รพ.มอ.(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งในขณะที่รอผลนั้น ทางครอบครัวซึ่งมีฐานะยากจนจึงไม่สามารถเดินทางไปโรงพยาบาลได้บ่อยจึงอาศัยรักษาหมอบ้านตลอดมา จนกระทั่งอาการเริ่มทรุดลงเรื่อย ๆ และต้องขาดเรียนมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งในขณะที่รักษาตัวที่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางมาที่บ้านเพื่อขอให้พ่อนำ นส.ตอฮีเราะ ไปรักษาตังที่โรงพยาบาล แต่ถูกปฏิเสธเรื่อยมา โดยอ้างว่าไปโรงพยาบาลอาการไม่ดีขึ้น แต่เมื่อมารักษาหมอบ้านดูอาการจะดีขึ้น พูดได้ เดินไปบ้างบางครั้ง แต่สภาพในตอนนี้ หลังจากที่ นพ.ชัยรัตน์ และทีมหมอเดินทางมาดูอาการและตรวจเบื้องต้นพบว่า อาการไม่ดีขึ้น ร่างกายผอมแห้งเพราะขาดอาหารเนื่องจากทานอะไรไม่ได้ อีกทั้งสุขลักษณะการดูแลผู้ป่วยก็ไม่ถูกต้อง ตาขวาอักเสพจนปิด ติดเชื้อในช่องปาก อาการบวมรุนแรง หากปล่อยไว้ขาดการรักษาอาจจะอันตรายถึงชีวิต

โดยทางนายกเหล่ากาชาด จ.ปัตตานี และหมอ พยายามขอให้พ่ออนุญาตให้เจ้าหน้าที่พา นส.ตอฮีเราะไปรักษาที่โรงพยาบาล โดยไม่มีค่าจ่ายใช้ใด ๆ ซึ่งก็ถูกปฏิเสธอ้างว่าจะรักษาหมอบ้าน จนกระทั่งได้สอบถาม นส.ตอฮีเราะ ซึ่งหลับอยู่ก็ได้รับคำตอบจาก นส.ตอฮีเราะว่า อยากไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล ทำให้ทุกคนที่มาให้กำลังใจต่างดีใจ และได้ประสานรถพยาบาลหนองจิกมารับตัว นส.ตคอฮีเราะ ไปทำการรักษาท่ามกลางความดีใจของเพื่อนบ้านที่มาในวันนี้ สำหรับอาการผลตรวจชิ้นส่วนนั้น เบื้องต้น นพ.ชัยรันต์ เผยว่า ยังไม่พบว่าเป็นโรคอันตรายหรือมะเร็ง แต่สาเหตุของอาการน่าจะเป็นก้อนเนื้องอกบริเวณกรามด้านขวา ซึ่งการรักษามีโอกาสที่จะหายแต่ก็ใช้เวลา เนื่องจากที่ผ่านมาผู้ป่วยขาดการรักษาที่ถูกต้อง แต่เราก็ยอมหากทางบ้านยังอยากจะใช้ยาสมุนไพรรักษาควบคู่ตามไปด้วย

นพ.ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุข จ.ปัตตานี กล่าวว่า สืบเนื่องจากเด็กอายุ 17 ปีอาการป่วยปวดหัวหนัก มีอาการหนักมาตั้งแต่เดือน กพ. ที่ผ่านมา และได้เข้ารักษาที่โรงพยาบาลหนองจิก เมื่อผ่านไประยะ 2 เดือนอาการไม่ดีขึ้น มีอาการบวมที่กรามข้างขวาจึงไปให้ทันตแพทย์ที่ดูแลอยู่จึงได้ทำการถอนฟันกรามเป็นฟันคุด แต่อาการไม่ดีขึ้นหลังจากนั้น มีอาการบวม เหมือนมีก้อนเนื้ออยู่ จนมีอาการบวมใหญ่ขึ้นอีก ทาง รพ.หนองจิกจึงได้ส่งตัวมาที่ รพ.ปัตตานี เพื่อวินิจฉัยเพิ่มเติม ทางแพทย์ รพ.ปัตตานี จึงดูแลต่อโดยทำการผ่านำชิ้นเนื้อออกส่งตรวจ ที่ รพ. มอ.หาดใหญ่. และให้น้องรักษาตัวต่อที่ รพ.ปัตตานี แต่ทางญาติกลับแจ้งประสงค์จะนำน้องกลับมารักษาที่บ้านกับหมอบ้านโดยใช้สมุนไพร  วันนี้เจ้าหน้้าที่ รวมทั้งคณะแพทย์ สาธารณสุข รพ.ปัตตานี จึงได้มาเยี่ยมให้กำลังใจ และขอให้นำน้องไปรักษาต่อ โดยชิ้นเนื้อที่ส่งไปตรวจวินิจฉัยนั้นไม่ได้เป็นเนื้อร้ายแต่อย่างใด ทางแพทย์คาดว่าผู้ป่วยรายนี้ เมื่อพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่เนื้อร้ายก็ต้องทำการรักษาให้หายขาดได้ในที่สุด

ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี