สองสามีภรรยาข้าราชการบำนาญสงสารลูกชายหลังประสบเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่ ขับรถจักรยานยนต์ไล่จับคนร้าย ทำให้รถชนกับรถยนต์ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องนอนที่มานานเกือบ 10 เดือน ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายภายบ้าน
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 52/1 หมู่ที่ 2 ต.วัดประดู่ อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พบนายสัมพันธ์ ขันธ์พิเนตร อายุ 65 ปี และนางฉวีวรรณ ขันธ์พิเนตร อายุ 62 ปี พ่อและแม่ช่วยกันดูแล ส.ต.ต.เจษฎา ขันธ์พิเนตร อายุ 28 ปี ผบ.หมู่งานป้องกันและปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี บุตรชายคนโต ที่ประสบอุบัติเหตุทางสมอง ขณะปฏิบัติหน้าที่ จนกลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง อย่างใกล้ชิด พร้อมลูกน้อยของ ส.ต.ต. เจษฎา อีก 2 คน
โดย นายสัมพันธ์ เปิดเผยว่า ส.ต.ต.เจษฎา เป็นบุตรคนโต เรียนจบวิศวะ แล้วได้เข้าสอบเป็นตำรวจ และได้ปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่ง ผบ.หมู่งานปัองกันและปราบปราม สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี ได้เพียง 2 ปี แต่ต้องมาเป็นผู้ป่วยติดเตียงเพราะเกิดอุบัติเหตุ
ขณะปฏิบัติหน้าที่ จยย.สายตรวจไล่ติดตามจับกุมรถ จยย.วัยรุ่นต้องสงสัยขับแหกด่าน และไปชนกับรถเก๋งที่กำลังออกมาจากซอย จนต้องเข้ารับการผ่าตัดสมอง หลังจากรักษาตัวจนปลอดภัย แต่ก็ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงต้องช่วยกันดูแลอย่างใกล้ชิด
เนื่องจากภรรยาของ ส.ต.ต.เจษฎา ต้องออกไปทำงาน เพราะจะต้องดูแลบุตรสาวอายุ ขวบครึ่งและบุตรชาย อายุ 6 เดือน โดยที่ผ่านมาตั้งแต่ลูกชายประสบอุบัติเหตุ ก็มีผู้บังคับบัญชาเข้าให้การดูแลในเรื่องเงินช่วยเหลือตามระเบียบราชการและส่วนตัว แต่ที่ผ่านมาก็ต้องใช้จ่ายในการดูแลรักษาต่อเดือนกว่า 3 หมื่นบาท และยังต้องดูแลหลานอีก 2 คนด้วย ก็ยอมรับว่า ไม่เพียงพอ แต่ก็ต้องสู้ต่อไป
“แต่ที่เป็นกังวนมากที่สุดตอนนี้คือ ถ้ารักษาตัวครบ 1 ปีไม่แน่ใจว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะยังคงดูแลในส่วนของเงินเดือนอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เพราะต้องยอมรับว่าถ้าหากขาดเงินส่วนใดส่วนหนึ่งไปคงต้องเดือดร้อน แต่ถ้าหากท่านใดมีความประสงค์ที่จะช่วยเหลือไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อม และในส่วนอื่นๆที่ต้องใช้ทุกวันก็ไม่ขัดข้อง ซึ่งสามารถนำมามอบให้กับมือตัวเองได้ที่บ้านทุกวัน หรือโทรมาที่เบอร์ 086-951-0357”
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สุราษฎร์ธานี
