ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดพัทลุง ว่า วันที่ 25 กันยายน 64 ที่ท่าเรือบริษัทสยามเนส2022 ท้องที่ ต.นาปะขอ อ.บางแก้ว จ.พัทลุง เจ้าหน้าที่ชุดสอบสวน กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสอบสวน พล.ต.อ. สุชาติ ธีระสวัสดิ์รอง ผบ.ตร. ยังคงเร่งสอบประวัติ คนรับจ้างเก็บรังนกหมู่เกาะสี่ เกาะห้า เพื่อคัดแยกคนดีออกจากกลุ่มคนร้าย พร้อมประสานขอรายชื่อจากคณะกรรมการจัดเก็บอากรภาษีรังนกอีเอ่นพัทลุง เพื่อขอรายชื่อเจ้าหน้าที่ ตำรวจ เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่ ฝ่ายปกครอง อส.และ เจ้าหน้าที่ อบจ.พัทลุง ที่ลงเฝ้าหมู่เกาะรังนก ในช่วงว่างเว้นสัมปทาน3 เดือน แต่การเฝ้าของเจ้าหน้าที่นั้นกลับไม่สามารถรักษารังนก ที่เป็นสมบัติของชาติและสมบัติของคนพัทลุงไว้ได้ ทั้งที่มีการเบิกจ่ายเงินเบี้ยเลี้ยงไปเกือบ 5 ล้านบาท โดยรายชื่อเจ้าหน้าที่ทั้งหมด ทางคณะกรรมการยังบ่ายเบี่ยงไม่ส่งมาให้ และทางชุดสอบสวนจึงยังไม่สามารถเก็บดีเอ็นเอ จากเจ้าหน้าที่ชุดเฝ้ารังนกได้ เพื่อที่จะเก็บอีเอ็นเอ มาเทียบกับดีเอ็นเอคนร้ายที่เก้บได้ตามถ้ำรังนกต่างๆ ทำให้การสอบสวนยังคงล่าช้า
ด้าน พ.ต.อ.วรชาติ รสจันทร์ รอง ผบ.ก.ภจว.พัทลุง หัวหน้าชุดสอบสวน เฝยว่าการสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องมีความคืบหน้าไปมาก โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องรัดกุมเพื่อที่จะจับขบวนการขโมยรังนกอีเอ่นพัทลุง และเผาไล่นก จนเกิดความเสียหาย ช่วงว่างเว้นสัมปทาน
ขณะเดียวกันในวันนี้ กรมสอบสวนคดีพิเศษหรือ DSI ภาค 9 นำโดย พ.ต.ต.พิภพ มะโหระบุตร ผอ.สำนักงานดีเอสไอภาค 9 ได้ลงพื้นที่รวบรวมหลักฐาน และสอบปากคำคนรับจ้างแทงรังนกหมู่เกาะสีเกาะห้า เพิ่มเติม เพื่อที่จะรวบรวมหลักฐานให้สอดคล้องกับข้อมูลหลักฐานที่ DSI ได้รับมาแล้วก่อนหน้านี้ เพื่อที่จะสอบแนวทางการเชื่อมโยง ในส่วนที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง โดยพบว่าหลักฐานเอกสารที่ทางคณะกรรมจัดเก็บอาการภาษีรังนกอีเอ่น ออกคำสั่งมาแต่ละครั้ง เป็นเอกสารหลักฐานที่มีการตรวจสอบแล้วพบว่า ย้อนแย้งกับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ ชุดเฝ้าเกาะ
ซึ่งในส่วนของ DSI นั้นจะเน้นการทำงานเพื่อเอาผิดเจ้าหน้าที่รัฐ ตั้งแต่ผู้บังคับบัญชา ไปจนถึงผู้ปฎิบัติงาน ที่ทำให้สมบัติชาติได้รับความเสียหาย การเผาทำลาย จนลูกนกอีเอ่นตาย ลงจำนวนมาก ซึ่งการรวบรวมหลักฐานทาง DSI ขอทำงานในเชิงลึกของคดี .
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.พัทลุง
