เมื่อช่วงสายของวันที่ 24.ก.พ.62 ที่ผ่านมา มีชาวบ้านที่ไปนั่งตบปลาอยู่ที่บริเวณหาดเสด็จ ม.8 ต.เจ๊ะเห อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พบเห็นจระเข้ ขนาดยาวประมาณ 3 – 4 เมตร ลำตัวใหญ่ ประมาณ 1 เมตร นอนอาบแดดอย่างสบายใจบนชายหาดเสด็จ จนต้องเรียนชาวบ้านมาช่วยกันดู พร้อมประสานเจ้าหน้าที่ชุดไกรทอง และประมงจังหวัดนราธิวาส มาตรวจสอบ พบเป็นตัวเดียวกันที่พบในลุ่มน้ำบางนรา ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส มาตั้งแต่วันที่ 19.ก.พ.62 ที่ผ่านมา
นายอาสมัน ดาโอ๊ะ อายุ 57 ปี เป็นพ่อค้าปลาในพื้นที่ อ.ตากใบ เปิดเผยว่า ขณะที่ตนและเพื่อนนั่งตกเบ็ดอยู่ที่ริมหาดเสด็จ ได้เหลือบไปเห็นจระเข้ตัวหนึ่งขนาดยาวไม่ต่ำกว่า 3 เมตร นอนอาบแดดอยู่บนพื้นทรายริมชายหาดใกล้โขดหิน เห็นจะๆว่าเป็นจระเข้อย่างแน่นอน ซึ่งอยู่ห่างจากจุดที่ตนนั่งตกปลา ประมาณ 50 เมตร ช่วงเวลา 09.00 น.เช้าวันนี้ ซึ่งจุดที่จระเข้ออกมานอนตากแดดนั้น ฝั่งตรงข้ามก็เป็นทะเลกั้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย ไม่มากนัก โดยที่จระเข้ตัวนี้นอนอาบแดดอยู่กว่า 1 ชั่วโมง เนื่องจากไม่มีคนรบกวนหรือทำเสียงดังให้มันตกใจ ก่อนที่จะหลบลงน้ำหายไปทางทะเลฝั่งพรมแดนมาเลเซีย
ด้านนายยาดี สะแลแม อายุ 40 ปี ชาวบ้านที่มาตกปลา เปิดเผยข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ว่า ขณะที่กำลังนั่งตกปลาอยู่กับเพื่อนรวม 2 คน ที่บริเวณหลายโขดหิน ได้เห็นจระเข้กำลังไหว้น้ำโผล่ขึ้นมาหายใจ พอเห็นดังกล่าวเกิดตกใจพร้อมตะโกนบอกเพื่อนว่ามีจระเข้ลอยขึ้นมาหายในบนเหนือน้ำ ด้วยความตกใจจากนั้นจึงพากันวิ่งขึ้นฝั่ง จากนั้นจระเข้ก็ได้ไหว้น้ำลอยไปทางปากอ่าวออกนอกชายฝั่ง ซึ่งบริเวณปากอ่าวออกชายฝั่งนั้นจะเป็นทางแยก 2 ทาง คือ ทางออกไปทะเล และทางเข้าแม่น้ำสุไหงโก-ลก ซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นเขตแดนไทย-มาเลเซีย แต่ถ้าจระเข้ไหว้ออกไปนอกทะเลแล้ว อาจจะอ้อมขึ้นฝั่งยังประเทศเพื่อนบ้านได้ หรือไม่ก็อาจจะไหว้กลับมาที่ชายหาดเสด็จอีกก็เป็นได้ เนื่องจากหาดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่เงียบสงบไม่มีเสียงคนรบกวน
ด้านนายนิพนธ์ เส็นอินทร์ รักษาการประมงจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ขณะนี้ทางประมงจังหวัดนราธิวาส ได้ตั้งกองบัญชาการอยู่ที่นั่น หากชาวบ้านพบเห็นจระเข้ขึ้นฝั่งมาอาบแดดหรือไหว้น้ำอยู่บริเวณใดก็สามารถแจ้งมาได้ทันที
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านพบเห็นจระเข้ปรากฏตัวที่ชายหาดเสด็จ พื้นที่ อ.ตากใบนั้น นายนิพนธ์ กล่าวว่า ภายหลังรับแจ้งจากชาวบ้านว่าพบเห็นจระเข้ปรากฏตัวที่บริเวณดังกล่าวตนและทีมงานไกรทองก็ได้ออกมาตรวจสอบ พบว่า เป็นจระเข้ตัวเดียวกันที่ปรากฏตัวในลุ่มน้ำบางนรา ต.กะลุวอเหนือ อ.เมืองนราธิวาส ซึ่งจะได้ออกติดตามและจากการสอบถามชาวบ้าน 7 – 8 คน ที่พบเห็นจึงสามารถพิสูจน์ให้ทราบว่า เป็นตัวเดียวกัน และจากการดูจากทิศทางการย้ายถิ่นของจระเข้ตัวนี้ พบว่าขณะนี้น่าจะไหว้ย้ายไปฝั่งตามชายหาดของประเทศเพื่อนบ้านแล้ว แต่ทางสำนักงานประมงจังหวัดได้ประสานให้ทางประมงอำเภอในพื้นที่ได้ประสานไปยังประมงพื้นที่คอยเฝ้าติดตามดู ซึ่งอาจจะพบเห็นอยู่ในจุดใดทางคณะทำงานก็จะมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อติดตามพฤติกรรมก่อนจะวางแผนในขึ้นต่อไป
ข่าว.ปทิตตา หนูสันทัด (โจ้) ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส
