“บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ ลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา 4 จ.ใต้ ฝันยึดพื้นที่ จชต.มั่นใจทุกคนดีกว่าชุดก่อน

0
1508
"บิ๊กบัง"พล.อ.สนธิ ลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา 4 จ.ใต้ ฝันยึดพื้นที่ จชต.มั่นใจทุกคนดีกว่าชุดก่อน

“บิ๊กบัง”พล.อ.สนธิ ลงพื้นที่เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครพรรคชาติไทยพัฒนา 4 จ.ใต้ ฝันยึดพื้นที่ จชต.มั่นใจทุกคนดีกว่าชุดก่อน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 6 ธันวาคม 2561  พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติไทยพัฒนา พร้อมด้วยนายธีระ วงศ์สมุทร กรรมการที่ปรึกษาพรรค  และ  นายธีระ มินทราศักดิ์ กรรมการอำนวยการเขต 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  นำทีมผู้สมัคร ส.ส. ในนาม พรรคชาติไทยพัฒนา ทั้ง 4 จังหวัด  ทั้งหมด 13 คน ประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี  เขต 1 นายสนิท นาแว เขต 2 ดร.เอกอนันต์ วันอารีย์สกุล  เขต 3 นายอับดุลรามัน มะยูโซะ เขต 4 นายอิทธิพล นาวินพัฒนรัตน์ จังหวัดยะลา เขต1 นายมะดิง เย็ง เขต2 นายแวหะมะ แวมะมิง เขต3 นายชาญชัย บารูเลิศ จังหวัดนราธิวาส เขต1 นายวาร์มูฮำหมัด บินแวดาโอะ เขต2นายอาร์มาน อารอมะ เขต3 นายสุรินทร์ หะยีหมัด เขต4  นายอดิศร เย็ง  2 เขต และ จังหวัดสงขลา เขต 7 นายอับดุลอาซิซ หลีสหัด เขต 8 นายอะหลี สอระมัน เปิดตัวอย่างเป็นทางการ มีพี่น้องประชาชนที่มาคอยต้อนรับอย่างล้นหลาม ที่บ้านเลขที่ 26/1 หมู่ 4 ตำบลราตาปันยัง อำเภอยะหริ่ง จังหวัดปัตตานี โดยในวันนี้ มารับฟัง เสียงของประชาชนในพื้นที่ และ เพื่อวางแนวทางตามนโยบายพรรค เพื่อเตรียมตัวสำหรับการเลือกตั้งที่จะมาถึงในครั้งหน้านี้ 24 กพ. 62 มั่นใจในตัวผู้สมัคร ว่า ทุกคนมีสิทธิ์ สอบผ่าน ทุกเขต เพราะทุกคนที่มา เป็นคนดี พร้อมทำเพื่อสังคม ทำการเมืองให้ดีกว่าที่ผ่านมา

พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน  เปิดเผยว่า ตนรับผิดชอบพื้นที่ผู้สมัครทั้ง  3 จังหวัดชายแดนภาคใต้และ  2  อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยผ่านผู้อำนวยการพรรคระดับเขตชายแดนใต้เป็นผู้คัดเลือก ว่าที่ผู้สมัครส.ส. ทั้ง 11 เขตและ 2 เขตของ จ.สงขลาโดยได้พิจารณาคัดสรรคนดีมีเจตนารมณ์เพื่อช่วยเหลือสังคมโดยในครั้งนี้เห็นว่าเป็นบุคคลที่ดีกว่าที่ผ่านมา คาดว่าครั้งนี้มั่นใจทุกคนเป็นตัวแทนของประชาชนสอบผ่านแน่นอน

สำหรับนโยบายนั้นในปัจจุบันสังคมที่มีความขัดแย้งตนเห็นว่าต้องคลายความขัดแย้งเรื่องพฤติกรรมในสังคมที่แตกต่างให้มีความเป็นอยู่แบบพหุวัฒนธรรมอยู่ได้ด้วยความรักความสามัคคี และในประเด็นด้านเศรษฐกิจในพื้นที่เห็นว่าใน 3 จังหวัดเป็นพื้นที่ที่ทุกคนพอมีพอกินอยู่แล้ว แต่เป็นเรื่องที่ต้องจัดสรรให้ทุกคนพอมีพอกินมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ส่วนในเรื่องของปัญหายางพาราต้องลงไปตรวจสอบลึกลงไปและต้องดูในภาพรวมว่าจะจัดการกันอย่างไร อีกด้านคือในเรื่องของกระบวนการยุติธรรม ต้องให้ความเป็นธรรมกับ กับผู้ที่มีคดีความมั่นคง ให้ได้มากที่สุดให้ทุกคนได้รับความเป็นธรรม

ในด้านเรื่องปัญหาความมั่นคงใน 3 จังหวัด พลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน  กล่าวเพิ่มอีกว่า ผมซึ่งในฐานะที่มีประสบการณ์ ต้องการให้ผู้สมัครในพื้นที่เข้าใจในการทำงาน ร่วมกับฝ่ายความมั่นคงได้   ยกตัวอย่างในประเทศจีนในมณฑลซินเจียงซึ่งมีมุสลิมอยู่เป็นจำนวนมากเค้าอยู่กันได้ จะทำอย่างไรให้เขาอยู่กันด้วยความรักความเข้าใจ แล้วต้องพัฒนาให้มีการศึกษาให้ดีขึ้นและทำเศรษฐกิจให้ดีขึ้น จนสุดท้ายทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ ในบ้านเราก็เช่นกันถ้าทุกคนมีความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวเป็นคนไทยด้วยกันมีความรักความผูกพันกันและมีการพัฒนาในเรื่องการศึกษาและเศรษฐกิจในทุกๆด้าน  เหล่านี้แล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเช่นกัน และในด้านการดูแลจัดการผมเห็นว่ากระทรวงมหาดไทยต้องเป็นผู้มีบทบาทมากกว่านี้สั่งผ่านทางกำนันและผู้ใหญ่บ้านซึ่งเข้าใจพื้นที่ดีเป็นตัวกลางในการแก้ปัญหาให้ได้มากที่สุด

ส่วนในด้านประเด็นเรื่องการพูดคุยสันติสุขนั้นเห็นว่าสามารถหยิบยกบทเรียน 66/23 มาดูได้ครั้งนี้เราต้องให้อภัย สำหรับผู้เห็นต่างและเริ่มต้นที่ศูนย์กันใหม่ และนับ 1 2 3 กัน เพราะหากเป็นการรบกันไปมาก็ไม่มีข้อยุติได้ ผมเคยผ่านการพูดคุยเจรจาสันติสุขมาหลายครั้งตั้งแต่ประเทศอินโดนีเซียและ มาเลเซียได้เข้ามาเห็นว่าคนที่อยู่ในกระบวนการพูดคุยสันติสุขต้องเข้าใจ ความต้องการของบุคคลเหล่านั้นในแต่ละรายไป ได้รู้จุดที่ถูกต้องแล้วจะแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด

และสุดท้ายขอฝากว่าในสังคมบ้านเราทุกวันนี้ต้องใคร่ครวญว่าจะทำอย่างไร ให้ประชาชน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความเป็นอยู่ดีขึ้น ทั้งนี้ต้องดูในขั้นพื้นฐานโดยเฉพาะด้านการศึกษาในด้านเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ โดยสามารถหยิบยกวิธีจากที่อื่นมาใช้ เช่นในการพัฒนาเศรษฐกิจ  และให้ทุกคนมีความรักความสามัคคีกันและต้องให้คนทั้งประเทศเข้าใจตรงกันว่าปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้สามารถแก้ไขได้ หากเราแก้ปัญหาในด้านสังคมดี สามารถยกระดับเศรษฐกิจได้ดี ให้ทุกคนและมีความรักสามัคคีกันได้ ถ้า 3 อย่างนี้ดีปัญหาความมั่นคงจะกลายเป็นปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น

 

ด้าน นายสนิท นาแว กล่าวว่ามีความมั่นใจในตัวผู้สมัคร ว่าทุกคนมีสิทธิสอบผ่านเพราะทุกคนเป็นคนดี พร้อมทำเพื่อสังคมและทำการเมืองให้ดีกว่าที่ผ่านมา

 

ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี