สุลต่านรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เสด็จฯเปิดอาคาร มหาวิทยาลัยฟาฏอนี จ.ปัตตานี

0
1343
สุลต่านรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคาร ณ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี จังหวัดปัตตานี

สุลต่านรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคาร ณ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี จังหวัดปัตตานี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันนี้ (27 พฤศจิกายน 2561) สมเด็จพระราชาธิบดีตวนกู ซัยยิด ซีรอญุดดีน อิบนี อัลมัรฮูม ตวนกู ซัยยิด ปุตรา จามาลุลลัยล์  (Duli Yang Maha Mulia Tuanku Syed  Sirajuddin  lbni  Al-Marhum Tuanku Syed Putra Jamalullail)  สุลต่านรัฐเปอร์ลิส  ประเทศมาเลเซีย พร้อมด้วย มกุฎราชกุมาร  เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคารคณะอัลกุรอานและซุนนะฮ  ณ  มหาวิทยาลัยฟาฎอนี   ตำบลเขาตูม  อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี จากนั้นเสด็จพระราชดำเนินเข้ารับฟังการบรรยายสรุป และทรงทอดพระเนตรห้องปฏิบัติการต่างๆ  รวมทั้งทรงฉายพระฉายาลักษณ์ร่วมกับคณะผู้บริหารมหาวิทยาลัย โดยมี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี  พร้อมด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ และตัวแทนพี่น้องมุสลิมจังหวัดปัตตานี ร่วมเฝ้ารับเสด็จ

มหาวิทยาลัยฟาฏอนี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนอิสลามเพียงหนึ่งเดียวในห้าจังหวัดชายแดนภาคใต้ มีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการส่งเสริมและพัฒนาด้านอิสลามศึกษา และศาสตร์แขนงอื่นๆ  ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และคุณภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม และความคาดหวังในการมีส่วนร่วมที่จะแก้ไขปัญหา รวมถึงพัฒนาภูมิภาคตามแนวทางสันติ ไม่เพียงเฉพาะนักศึกษาไทยเท่านั้น แต่รวมถึงนักศึกษาจากประเทศเพื่อนบ้านในเอเชีย และประเทศอื่นๆ อีกด้วย ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีนักศึกษาต่างประเทศ จาก 25 ประเทศ

ตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัย เปิดการเรียนการสอน 4 คณะ ประกอบด้วย 1) คณะอิสลามศึกษาและนิติศาสตร์ 2) คณะศิลปศาสตร์และสังคมศาสตร์   3) คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี  และ 4)  คณะศึกษาศาสตร์ ในโอกาสก้าวเข้าสู่ปีที่ 21 ในเดือนมีนาคม 2560  เริ่มก่อสร้างอาคารคณะอัลกุรอานและอัสซุนนะฮฺ  ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก   สำนักงานคณะกรรมการอิสลามและวัฒนธรรมมลายู รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย จำนวน 20 ล้านบาท และในปีการศึกษา 2561 ได้เปิดรับนักศึกษาในหลักสูตรอัลกุรอานและอัสซุนนะฮฺ(หลักสูตรนานาชาติ) มีนักศึกษาทั้งสิ้น 42 คน เป็นนักศึกษาจากประเทศไทย 36 คน กัมพูชา 3 คน จีน 1 คน เมียนมาร์ 1 คน และอินโดนีเซีย 1 คน

ภาพ/ข่าว/@ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี