ไม่อนุญาตให้ต่างชาติจดสิทธิบัตร “กัญชา” กลุ่มมิตรภาพสัมพันธ์เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง ”หนุน” (ชมคลิป)

0
502

ไม่อนุญาตให้ต่างชาติจดสิทธิบัตร “กัญชา”  กลุ่มมิตรภาพสัมพันธ์เพื่อผู้ป่วยมะเร็ง ”หนุน”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ห้องประชุมคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ (มอ.) อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ร่วมกับภาคีเครือข่ายหลายภาคส่วน ร่วมประชุมเสวนาวิชาการ ”พืชยา กัญชา กระท่อม: ปรับเปลี่ยนนโยบายและกฎหมายยาเสพติด เพื่อการเข้าถึงยาของประชาชน” มี ผศ.วิศิน สุวรรณรัตน์ รองอธิการบดี มอ.วิทยาเขตหาดใหญ่ ศ.ดร.พญ.สาวิตรี อักษณางค์กรชัย ประธานเครือข่ายวิชาการวิจัยและข้อมูลด้านสารเสพติดในภาคใต้รายงาน มีนักวิชาการและประชาชนเข้าร่วมประมาณ 100 คน

รศ.ดร.ภญ.จุไรทิพย์ หวังสินทวีกุล อาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชเวทและเภสัชพฤกษาศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มอ.กล่าวว่าพืชกระท่อมและกัญชามีสาระสำคัญที่สามารถพัฒนาเป็นยา เพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ได้ องค์ความรู้เกี่ยวกับพืชที่ใช้เป็นยา จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากพืชมีสารประกอบมาก ตัวสาระสำคัญที่ออกฤทธิ์เป็นยา การเพาะปลูกและสารพันธ์ของพืชจึงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อคุณภาพของสมุนไพร เป็นยาแผนปัจจุบัน จำเป็นต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจทางการแพทย์และเภสัช

รศ.สมสมร ชิตตระการ นักวิจัยและผู้เชี่ยวชาญพืชกระท่อม คณะวิทยาศาสตร์ มอ.กล่าวว่าพืชกระท่อมเป็นส่วนประกอบอยู่ในตำรายาแพทย์แผนโบราณ เป็นวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมของคนไทย ในการบำบัดโรคและดูแลรักษาคนเจ็บไข้ ด้วยภูมิปัญญาไทยและการแพทย์แผนไทย พืชกระท่อมเป็นพืชที่มีการศึกษาวิจัยทางด้านวิทยาศาสตร์การแพทย์  ต่างประเทศมีการจดสิทธิบัตรที่จะพัฒนาพืชกระท่อมเป็นยารักษาโรค จากการศึกษาวิจัยพบว่ามิตราภัยนีนซึ่งเป็นสารสำคัญในใบกระท่อมมีฤทธิ์ระงับปวด มีฤทธิ์ระงับปวดดีกว่ามอร์ฟีน

 

รศ.ดร.เอกสิทธิ์ กุมารสิทธิ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ มอ.กล่าวว่าจากการทดลองด้านการบำบัดอาการถอนสุราในสัตว์ทดลอง พบว่าสารสกัดอัลคาลอยด์จากใบกระท่อม ช่วยลดอาการถอนยาจากการติดแอลกอฮอล์ได้เทียบเคียงได้กับการใช้ยามาตรฐาน ฟลูออกซีดิน

ส.ท.สงคราม บัวอง กำนัน ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฏร์ธานี กล่าวว่ายืนยันว่าชุมมีแนวทางในการควบคุมการใช้พืชกระท่อม หาก สนช.และรัฐบาลเปิดใจปลอดล๊อต ตนและชาวบ้านได้ขีบเคลื่อนโครงการวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการควบคุมพืชกระท่อมโดยการมีส่วนร่วมของชุมชนในประเทศไทย โดยใช้พื้นที่ ต..น้ำพุเป็นพื้นที่ศึกษาวิจัยตั้งแต่ปี 59 ผลการวิจัยก่อให้เกิดรูปธรรมการควบคุมพืชกระท่อม การมีส่วนร่วมของชุมชนทั้ง 6 หมู่บ้าน เป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาปลดล๊อตพืชกระท่อมให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณา พรบ.แก้ไขยาเสพติด

“นโยบายกัญชาทางการแพทย์ ประเทศพึ่งพาตนเองได้ และเอ้อให้ผู้ป่วยมะเร็งและโรคต่างๆ สามารถพาสารสกัดกัญชาได้อย่าวพอเพียงโดยประเทศไทย ไม่ควรให้มีการนำเข้าสารสกัดกัญชาและผลผลิตภัณฑ์จากกัญชาจากต่างประเทศ และไม่อนุญาตให้ต่างประเทศจดสิทธิบัตรกัญชา เนื่องจากนโยบายกัญชาทางการแพทย์ถือเป็นนโยบายที่เป็นวาระแห่งชาติ รัฐควรมีการจัดตั้งองค์กรที่มีความสามารถในการรองรับที่จะเกิดขึ้นกับกัญชาในอนาคต”

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สงขลา