แอบขายน้ำมันเถื่อนเขตแดนไทย-มาเลย์ แต่ไม่รอดถูกสรรพสามิตกับทหารปูพรมรวบได้ 6 รายพร้อมของกลาง
เจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาค9ร่วมกับทหารปูพรมกวาดล้างจับกุมน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซีย หลังมีการลักลอบนำเข้ามาจำหน่ายในช่วงที่ราคาน้ำมันไทยปรับตัวสูงขึ้น สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ของกลางน้ำมันดีเซล จำนวน 1,675 ลิตร น้ำมันเบนซิน 215 ลิตร และนำมาเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 77,373.75 บาท
จากปัญหาน้ำมันเถื่อนในพื้นที่ชายแดนไทยมาเลเซียที่ทะลักเข้ามาอย่างหนักในช่วงนี้จากผลพวงราคาน้ำมันของไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นทั้งดีเซลและเบนซิน ลิตรละราคาหน้าปั้มที่ จ.สงขลาตกลิตรละ 30 บาทกว่า ทำให้ นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ อธิบดีกรมสรรพสามิต ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สรรพสามิตในพื้นที่เร่งปราบปรามกวาดล้างจับกุมกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนไทยมาเลเซีย
กระทั่งล่าสุดเมื่อเวลา 16.00น.วันที่20 พ.ค. เจ้าหน้าที่สรรพสามิตภาค9 นำโดย นายมาโนช พิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค9 และนายภาณุพงศ์ ศรีเกตุ รักษาการแทนผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารการจัดเก็บภาษี สำนักงานสรรพสามิตภาค9 ประสานขอกำลังทหารจากมณฑลทหารที่42 ปูพรมออกกวาดล้างและจับกุมกลุ่มผู้ค้าน้ำมันเถื่อนที่เปิดขายทั้งในลักษณะปั้มหลอดแก้วและแบ่งใส่ขวดและใส่แกลลอน ขายกันริมถนนคลองแงะ-บาโรย พื้นที่ ต.พังลา, ต.ปริก, ต.สะเดา ในอ.สะเดา และ ต.ทุ่งลาน ในอ.คลองหอยโข่ง จ.สงขลา
สามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 6 ราย ของกลางน้ำมันดีเซล จำนวน 1,675 ลิตร น้ำมันเบนซิน 215 ลิตร และนำมาเปรียบเทียบปรับเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 77,373.75 บาท โดยน้ำมันเถื่อนที่เจ้าหน้าที่จับกุมได้ทั้งหมดเป็นลักษณะกลุ่มกองทัพมดที่ลักลอบลำเลียงเข้ามาส่งขายให้กับผู้ค้ารายย่อย ซึ่งเฉลี่ยราคาทั้งเบนซิลและดีเซลอยู่ที่ลิตรละประมาณ 22-25 บาท ในขณะที่ราคาน้ำมันตามปั้มต่างๆใน จ.สงขลา อยู่ที่ลิตรละ 30 บาทกว่าทั้งเบนซิลและดีเซล
นายมาโนช พิทักษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานสรรพสามิตภาค 9 เปิดเผยว่า จะเร่งกวาดล้างจับกุมน้ำมันเถื่อนตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็นรายเล็กหรือรายย่อยเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในภาพรวมของเศรษฐกิจภายในประเทศ
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สงขลา