ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ถนนสฤษดิ์เดช ในเขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา พี่น้องมุสลิมจะเดินเลือกซื้อหาอาหารในช่วงก่อนพระอาทิตย์ตกดินซึ่งในช่วงของเดือนรอมฎอน ที่พี่น้องชาวไทยมุสลิมต่างถือศีลอด ตามบทบัญญัติศาสนาอิสลาม ทางเทศบาลเมืองเบตงจึงได้กำหนดให้พื้นที่ถนนสฤษดิ์เดช ในเขตเทศบาลเมืองเบตง เป็นแหล่งรวมสารพันอาหารเดือนรอมฎอน และเป็นพื้นที่ถนนอาหารปลอดภัยในเดือนรอมฎอนด้วย
โดยเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการร้านค้ามาจับจองพื้นที่จำหน่ายอาหารคาวหวาน ที่ประชาชนผู้นับถือศาสนาอิสลามทั้งในพื้นที่ อ.เบตง และอำเภอข้างเคียง รวมทั้งชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในรัฐกเปรัค ประเทศมาเลเซีย จะออกมาจับจ่ายซื้ออาหารไว้สำหรับเปิดบวช หรือละศีลอดในช่วงเวลาหลังพระอาทิตย์ตกดิน เพราะถนนเส้นนี้ ถือเป็นศูนย์กลางการจำหน่ายอาหารช่วงเดือนรอมฎอน ที่มีพ่อค้าแม่ค้ามาจำหน่ายมากกว่า 60 ร้าน
นางสาวมาซือนะ เจ๊รา แม่ค้าที่จำหน่ายโรตีมะตะบะและ โรตีปาแย กล่าวว่า ปกติจะจำหน่ายขนมมะตะบะอยู่ที่หน้าขนส่งเก่า มีกำไรจากการจำหน่ายขนมวันละประมาณ 800 – 1,000 บาท แต่เมื่อถึงเดือนรอมฎอนของทุกปี จะมาจำหน่ายโรตีมะตะบะและโรตีปาแย ที่ถนนแห่งนี้ สำหรับ โรตีปาแย ที่ทำมาจำหน่าย จะแตกต่างจากโรตีอื่นๆก็ตรงของดั้งเดิมจะไม่ใส่ไข่ โรตีจะชิ้นใหญ่หนา ทำให้สุกโดยการย่างหรือปิ้ง สมัยก่อนจะย่างหรือปิ้งบนปากโอ่ง เลยเรียกว่า โรตีปาแย (ปาแย แปลว่า โอ่ง) หรือโรตีปากโอ่ง
การทำแบบนี้คล้ายกับทำจาปาตีของอินเดียที่จี่โรตีบนแผ่นเหล็กร้อนๆ ไม่ใส่น้ำมัน เนื้อโรตีจะฟูนุ่ม ตอนย่างก็จะมีกลิ่นหอม แต่ปัจจุบันเห็นหลายคนเค้าทอดในกระทะโดยใส่น้ำมันเข้าไปด้วย อาจจะเป็นเพราะหาโอ่งย่างไม่ได้หรือเพื่อความสะดวกก็ไม่ทราบได้ ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณอยู่ที่ 1,000 บาท
ส่วนมะตะบะ จะมีไส้ไก่ และไส้เนื้อ ราคาแผ่นละ15 บาท แต่หากสั่งพิเศษจะทำโดยใช้โรตี 2 แผ่นและปริมาณไส้ที่เพิ่มขึ้น และจะจำหน่ายในราคา 20 บาท ซึ่งในช่วงรอมฎอนนี้เฉพาะจำหน่ายโรตีมะตะบะอย่างเดียวมีรายได้เฉลี่ยต่อวันประมาณ 800-1,000 บาททั้งนี้ยอมรับว่าช่วงเดือนรอมฎอนเป็นช่วงที่สามารถสร้างรายได้ให้ครอบครัวเป็นจำนวนมาก เพราะผู้บริโภคทั้งในและต่างพื้นที่ต่างเข้ามาซื้ออาหารที่ถนนสายแห่งนี้กันอย่างคึกคัก
ข่าว / เจษฎา สิริโยทัย
ภาพ / อิมรอน ดามาอู @ชายแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา
