เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 20 สค. นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคไทยศรีวิไลย์ หรือ พี่เต้ 007 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุระเบิดที่ปั้มบางจากจากเหตุการณ์ที่คนร้ายบุกเข้าไปลอบวางระเบิดและเผา ปั้มน้ำมันบางจาก เลขที่ 200/1 บ้านดอนยาง ม.8 ต.บ่อทอง บริเวณริมถนนสายปัตตานี–หาดใหญ่ อ.เมืองปัตตานี เป็นเหตุให้ปั้มน้ำมันดังกล่าวได้รับความเสียหายอย่างหนัก เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม ที่ผ่านมา
โดยตั้งใจที่จะมาให้กำลังใจพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และดูสภาพความเสียหายและพูดคุยกับทางเจ้าของปั้มที่ได้รับความเสียหาย เพื่อที่จะหาวิธีในส่วนของการเยียวยาผู้ที่ได้รับความเสียหายในการเกิดเหตุในครั้งนี้ และจะได้เสนอไปยังกรรมาธิการทหาร เพราะเป็นเรื่องของความมั่นคงโดยตรง
โดยวันนี้ทางปั้มน้ำมันบางจากยังคง มีการนำแสลนมาขึงปิดพื้นที่บริเวณปั้มน้ำมันไว้และยังไม่ได้มีการเคลียร์พื้นที่ในส่วนของตัวหัวจ่ายปั้มน้ำมัน โครงสร้างอาคาร และรถบรรทุกน้ำมันออก เพราะต้องรอประเมินความเสียหายถึงจะเคลียร์พื้นที่ได้
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ เปิดเผยว่า วันนี้ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบความเสียงหายในแต่ละจุด มีความเสียหายมากน้อยแค่ไหน และก็ดูว่าทางรัฐจะเข้ามาดูแล เยียวยาตรงจุดไหน ที่น่ากังวลคือประกันจะไม่รับ อาทิตย์หน้าก็คงจะต้องเสนอให้กับกรรมาธิการทหารเพราะเป็นเรื่องความมั่นคง จะได้สรุปความเสียหาย และจะทำอย่างไรเพื่อยับยั้งความเสียหายต่อไปในในอนาคต
ตนอยากให้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่จำเป็นต้องประกาศภาวะฉุกเฉิน และต้องต่อ 3 เดือน 6 เดือน ซึ่งไม่เห็นด้วย อยากให้เป็นภาวะปกติ จัดกำลังทหารแบบปกติเหมือนกับจังหวัดอื่นๆ
เราต้องทำความเข้าใจระดับแกนนำในพื้นที่ ทุกฝ่ายจะต้องพูดคุยกัน ก็จะคลายสถานการณ์ด้านกฎหมายมากขึ้น เมื่อคลายสถานการณ์กฎหมายมากขึ้นงบประมานไม่จำเป็นต้องกระจุกตัวอยู่ในพื้นที่ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งการจัดซื้อจัดจ้างก็อยากให้เป็นปกติทั่วไป
ตนจึงมองว่ามีบางคนหรือเปล่าที่ต้องการให้สถานการณ์ไม่ปกติ เพื่อต้องการผลประโยชน์ด้านงบประมาณผลประโยชน์ในการจัดซื้อจัดจ้างที่ง่ายขึ้น ระเบียบที่ง่ายขึ้นโดยที่เจ้าหน้าที่รัฐมีอำนาจมากขึ้น เหมือนกับโครงการ cctv ที่ตนได้ตรวจสอบมาแล้วเป็นเจ้าหน้าที่ทหารเกี่ยวข้องทั้งหมด ปปช.ได้แจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว
นายมงคลกิตติ์ ยังกล่าวถึงที่นายกรัฐมนตรีไม่พูดถึง ก็เพราะเป็นผลประโยชน์ของเจ้าหน้าที่รัฐ และเกี่ยวข้องกับทหารด้วย ต้องอย่าลืมว่าพื้นที่ไหนมีความมั่นคง ทหารก็จะมีอำนาจมากที่สุด ตนในฐานะกรรมาธิการทหารก็ต้องสอบเรื่องนี้ และบริหารจัดการเรื่องความขัดแย้งและผลประโยชน์ให้เรียบร้อย โดยที่งบประมานไม่กระจุกอยู่พื้นที่นี้ ที่ไม่มีอะไรที่พัฒนาขึ้นสักอย่าง
“โดยปกติพรรคการเมืองทุกพรรค ที่ลงพื้นที่ คือรับทราบปัญหาของประชาชน หลังจากนั้นจะต้องทำนโยบายพรรค การลงพื้นที่ทำงาน คือการหาเสียง ถ้าประชาชนศรัทธา เขาก็ใช้งานเราเยอะ เราก็มีอำนาจรัฐมากขึ้น สามารถแก้ไขปัญหาได้มากขึ้นเช่นกัน ฉะนั้นทุกพรรคก็ต้องหาเสียงอยู่แล้ว เพราะใกล้เลือกตั้ง แต่การหาเสียงโดยระดมคน ไปจ้างประชาชนมาปราศรัยกันก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร กิจกรรมแบบนี้ไรสาระ ตนมองว่าการลงพื้นที่รับปัญหาข้อเท็จจริงนั้น ไม่จำเป็นต้องมากันเยอะ ก็จะได้ปัญหาที่แท้จริงสู่การแก้ไขปัญหา และก็ประหยัดงบประมาณด้วยไม่จำเป็นต้องเกณฑ์คน มา ห้าพัน–หมื่นคนต้องใช้เงินหลายล้าน เป็นอะไรที่ไร้สาระมาก เพราะเงินที่คุณเกณฑ์มาคือเงินคอรัปชั่นทั้งหมด หัวหน้าพรรคไหนจะเถียงผมบ้าง พล.อ.ประวิทย์จะเถียงผมไหม นายอนุทิน จะเถียงผมไหม นายจุรินทร์จะเถียงผมไหม” นายมงคลกิตติ์ กล่าว..
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี
