ผบช.ภาค 9 ตั้งโต๊ะแถลงเหตุลอบวางระเบิด “นางเงือก” คนร้ายหวังทำลายเศรษฐกิจและสัญลักษณ์คนสงขลา

0
986

ผบช.ภาค 9 ตั้งโต๊ะแถลงเหตุลอบวางระเบิด “นางเงือก” คนร้ายหวังทำลายเศรษฐกิจและสัญลักษณ์คนสงขลา

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 27 ธคที่ ศาลากลางจังหวัดสงขลา อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา พลตำรวจโท รณศิลป์ ภู่สาระ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พลตรี จตุพร กลัมพสุต รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลเรือโทชุตินธร  ทัตตานนท์  ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 2, นายวีรนันทน์  เพ็งจันทร์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ร่วมแถลงความคืบหน้าเหตุระเบิดบริเวณชายหาดแหลมสมิหลา ตำบลบ่อยาง อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา  โดยเมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2561 เวลาประมาณ 21.30 น. ได้เกิดระเบิดขึ้น 2 ครั้งในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่บริเวณชายหาดแหลมสมิหลาจังหวัดสงขลา ซึ่งจุดที่เกิดระเบิดอยู่ตรงบริเวณรูปปั้นนางเงือกทองและรูปปั้นหนูกับแมว ที่อยู่ห่างกันประมาณ 200 เมตร อันเป็นสัญลักษณ์ของชายหาด       แหลมสมิหลา 

ต่อมาในช่วงเช้าเจ้าหน้าที่ได้เข้าทำการตรวจสอบที่เกิดเหตุและพื้นที่บริเวณใกล้เคียง พบว่ายังมีระเบิดอีก 3 ลูก        ที่ยังไม่ระเบิด เจ้าหน้าที่จึงได้ทำลายวงจรเพื่อยับยั้งการระเบิด และเก็บกู้เพื่อนำไปตรวจสอบต่อไป เหตุการณ์ครั้งนี้ 

คาดว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ ในลักษณะการก่อกวนโดยไม่หวังผลต่อชีวิตคน แต่เพื่อทำลายเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมามีนักท่องเที่ยวเข้ามาในพื้นที่เป็นจำนวนมากทำให้เศรษฐกิจเติบโตอย่างรวดเร็ว ผู้ไม่หวังดีจึงก่อเหตุเพื่อทำลายการท่องเที่ยวเป็นการสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิมที่ได้รับประโยชน์จากการท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต มีเพียงรูปปั้นนางเงือกทองที่ได้รับความเสียหายบริเวณหาง    ส่วนระเบิดจะเป็นชนิดใดและก่อเหตุโดยกลุ่มใดยังไม่สามารถระบุได้ต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ที่เกิดเหตุและการประเมินเหตุการณ์ของเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงต่อไป

ด้าน วีรนันท์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา กล่าวว่า การก่อเหตุในครั้งนี้ได้สร้างความเสียใจต่อคนในจังหวัดสงขลาเป็นอย่างมาก เนื่องจากรูปปั้นนางเงือกที่เสียหายเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของเมืองสงขลา ต้องช่วยกันประณามผู้ก่อเหตุ พร้อม   ขอความร่วมมือจากสื่อมวลชนให้ช่วยกันกระจายข่าวสารข้อเท็จจริง โดยไม่เบี่ยงเบนประเด็นและไม่คาดเดา จนกว่าทางเจ้าหน้าที่  ฝ่ายความมั่นคงจะสามารถตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานได้

อย่างไรก็ตาม ประชาชนชาวสงขลา ที่รับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ต่างรู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งนี้ในพื้นที่จังหวัดสงขลาไม่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรงเช่นนี้มาก่อน เป็นการกระทำที่คนสงขลารับไม่ได้ ที่ทำให้การท่องเที่ยวได้รับผลกระทบ จึงอยากขอร้องให้ผู้ก่อเหตุหยุดการกระทำดังกล่าว เพื่อบ้านเมืองจะได้สงบสุข