เมื่อคืนวันที่ 6 ธ.ค. พ.ต.อ.ดุลยมาน แยนา ผกก.สภ.ยี่งอ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุคนเสียชีวิตภายในบ้านพักเลขที่ 117 ม.8 ต.ละหาร จึงสั่งระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารและเจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมตตาธรรม รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งยืนมุงอยู่ที่บริเวณหน้าบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่จึงได้กั้นผู้ไม่เกี่ยวข้องออกห่าง ก่อนเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน พบนางทิม ฉัตรวิจิตร อายุ 73 ปี เจ้าของบ้าน นอนจมกองเลือดเสียชีวิตภายในห้องน้ำ โดยมีบาดแผลถูกของมีคมปาดที่บริเวณลำคอเป็นแผลฉกรรจ์ 1 แผล และทีลำตัวกับหน้าท้องอีกหลายแผล พบมีดทีก่อเหตุติดคราบเลือดในห้องน้ำ
เจ้าหน้าที่จึงได้มอบศพผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิกู้ภัยเมตตาธรรม นำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ เพื่อให้แพทย์ทำการชันสูตรพลิกศพอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะมอบให้ญาติรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา. ทางด้าน พ.ต.อ.ดุลยามาน ผกก.สภ.ยี่งอได้สอบปากคำ น.ส.ซาฟีร่า ฉัตรวิจิตร อายุ 14 ปี ซึ่งเป็นหลานของผู้ตาย ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองซึ่งเพิ่งกลับจากโรงเรียนและกำลังนั่งกินข้าวอยู่ในครัวภายในบ้านพัก ส่วนนางทิมผู้เป็นย่าได้เดินเข้าไปเพื่อจะอาบน้ำในห้องน้ำ ส่วนนายนิวัฒน์ ฉัตรวิจิตร อายุ 44 ปีซึ่งเป็นลูกชายคนสุดท้องของนางทิมและเป็นอาของตนเองกำลังเดินไปเดินมาอยู่ภายในบ้านพัก จากนั้นประมาณ 5 นาที ตนเองได้ยินเสียงย่ากรีดร้องเสียงดังและเรียกให้ตนเองเข้าไปช่วย
เมื่อตนเองวิ่งไปที่ห้องน้ำ แต่ประตูด้านในถูกล็อกไว้ ตนเองจึงได้วิ่งไปคว้าโทรศัพท์มือถือมือไม้สั่นด้วยความตกใจก่อนจะรีบโทรหานายอรรถพล ฉัตรวิจิตร ผู้เป็นพ่อที่อาศัยอยู่ที่บ้านพักอีกหลังหนึ่งในหมู่บ้านเดียวกันเพื่อให้รีบมาดูย่า และเมื่อนายอรรถพลขี่รถ จยย.มาถึงได้รีบจอดรถก่อนวิ่งขึ้นมาบนบ้านพักอย่างรวดเร็วเพื่อจะผลักประตูห้องน้ำเข้าไป แต่ทันใดนั้นประตูห้องน้ำได้ถูกเปิดออกมาจากข้างใน โดยมีนายนิวัฒน์น้องชายของนายอรรถพลและเป็นลูกชายของนางทิมเดินออกมาจากห้องน้ำอย่างไม่สะทกสะท้าน
ซึ่งนายอรรถพลได้รีบเข้าไปดูนางทิม พบว่าถูกมีดในครัวแทงตามลำตัวและหน้าท้องขาดใจตายจมกองเลือดอยู่ภายในห้องน้ำอย่างน่าอนาถ นายอรรถพลจึงได้ซักถามนายนิวัฒน์ ว่าทำไมต้องฆ่าแม่ด้วย แต่นายนิวัฒน์กลับพูดออกมาว่าทำถูกแล้ว และเมื่อสบโอกาสในขณะที่นายอรรถพลกำลังเข้าไปดูนางทิม ส่วน น.ส.ซาฟีร่ากำลังโทรหาเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ยี่งอ นายนิวัฒน์ได้คว้ารถ จยย.ฮอนด้ารุ่นเวฟ สีแดง ไม่ทราบหมวดอักษร ทะเบียน 514 สตูล รีบขี่หลบหนีไปทาง ม.1 บ.ละหาร
ต่อมา พ.ต.อ.ดุลยามานได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่าทันที. พร้อมชาวบ้านที่ออกช่วยกันควานหาตัวนายนิวัฒน์ มือสังหารโหดแม่แท้ๆของตัวเองรายนี้เวลาประมาณ1ชั่วโมง จนสามารถทำการควบคุมตัวได้ทันควัน ที่ ม.1 บ.ละหาร ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 5 กิโลเมตร เท่านั้น
หลังจากที่นายนิวัฒน์ได้ไปขอเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านเพื่อน เป็นเสื้อเชิ้ตแขนยาวและผ้าโสร่ง และกำลังนั่งกินน้ำชาอยู่กับเพื่อนๆ อย่างไม่ทุกข์ร้อน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวมาสอบปากคำที่ สภ.ยี่งอ โดยนายนิวัฒน์ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือแทงและสังหารโหดนางทิมแม่แท้ๆของตนเองจริง แต่ที่ทำไปเพราะตนเองเป็นโรคประสาท ขณะลงมือประสาทหลอนเพราะเมากัญชาด้วย เคยติดคุก 8 ปีตั้งแต่เมื่อปี 2539 ในข้อหาพยายามฆ่า โดยครั้งนั้นได้ใช้มีดฟันเด็กอายุ 2 ขวบจนมีผู้บาดเจ็บจำนวน 3 คน และเหตุเกิดในละแวกบ้านเช่นกัน ซึ่งนายนิวัฒน์ยังให้การอีกว่า หลังจากออกจากคุกมาได้ประมาณ 15 ปี ตนเองซึ่งเคยเข้ารับการบำบัดจากการติดยา มีอาการทางประสาทอยู่บ่อยครั้ง จนครั้งนี้เป็นหนักมากถึงขาดสติ อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ยังไม่ปักใจเชื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะทำการตรวจสอบอีกครั้งว่านายวันนิวัติ เป็นผู้ป่วยทางจิตจริงหรือไม่อย่างไร
ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส
