ฉลองวันฮารีรายอ 3จังหวัดชายแดนภาคใต้คึกคัก ชาวมุสลิมออกเยี่ยมญาติ กลับทำบุญคืนสู่บ้านเกิด

0
825

วันรายออีดุลอัฎฮา  ฮศ.1439 หรือ รายอฮัจยีทั้ง3จังหวัดพี่น้องชาวไทยมุสลิมทั้ง3จังหวัดต่างฉลองกันทั่วหน้า ที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลา เริ่มต้นขึ้นด้วยความสิริมงคล โดยชาวไทยมุสลิมได้ออกไปร่วมกันประกอบพิธีละหมาด ตามมัสยิดต่างๆ อย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีชาวไทยมุสลิมทุกเพศ ทุกวัย แต่งกายด้วยชุดสีขาวไปร่วมกันละหมาดจนล้นมัสยิด ส่วนใหญ่ไปกันเป็นครอบครัว เนื่องจากลูกหลานจะเดินทางกลับมาร่วมเฉลิมฉลองฮารีรายอ ที่บ้านเกิด

หลังจากเสร็จสิ้นพิธีละหมาด ซึ่งเป็นศาสนกิจสำคัญที่ต้องปฏิบัติแล้ว พิธีสำคัญอีกอย่างหนึ่งในวันรายออีดุลอัฎฮา คือการทำกุรบาน หรือการเชือดสัตว์เพื่อพลีทาน ซึ่งเป็นมหากุศลและถือว่าเป็นการใกล้ชิดกับพระผู้เป็นเจ้า

ส่วนบรรยากาศการท่องเที่ยว พบว่าที่ด่านชายแดนอำเภอเบตง มีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียเดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่จำนวนมาก รวมทั้งแรงงานไทยที่กลับมาเยี่ยมบ้านในช่วงวันฮารีรายอเพิ่มขึ้นจำนวนมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองได้เข้มตรวจสอบบุคคล ป้องกันการแอบแฝงเข้ามาก่อเหตุร้าย ซึ่งสถานที่ท่องเที่ยวซึ่งเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและชาวสิงคโปร์ รวมทั้งชาวไทยในพื้นที่อำเภอเบตง คือทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บนยอดเขาไมโครเวฟ อำเภอเบตง โดยพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางขึ้นไปเที่ยวชมทะเลหมอกเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะเดินทางกันไปเป็นครอบครัว

และที่จังหวัดนราธิวาส ที่มัสยิดตะโละมาเนาะ ต.ลุโบะสาวอ อ.บาเจาะ จังหวัดนราธิวาสโบราณ300ปี ก็เช่นเดียวกัน นอกจากคนในท้องถิ่นที่มาแล้ว บรรดาญาติมิตรลูกหลานที่พำนักอยู่ต่างประเทศได้กลับมาร่วมเฉลิมฉลองด้วย บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข

และที่จังหวัดปัตตานี นายวีรนันทน์ เพ็งจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี ได้เดินทางมาร่วมพิธีละหมาดที่สนามกีฬากลางจังหวัดปัตตานี ร่วมกับชาวไทยมุสลิม จัดโดยอบจ.ปัตตานี มีผู้มาร่วมละหมาดกันเป็นจำนวนมาก หลังเสร็จสิ้นพิธีละหมาด ทุกคนต่างได้ แยกย้ายกลับไปทำเชือดกุรบานที่ภูมิลำเนาของตนเอง เพื่อแจกจ่ายแก่คนยากจนต่อไป โดยวันฮารีรายออิดิลอัดฮานี้จะฉลองกันอย่างน้อยเป็นเวลาถึง 3 วัน

ทีมข่าว@ชายแดนใต้