เมื่อเวลา 15.40 น. วันที่ 25 ส.ค. พ.ต.อ.อดุลย์ เง๊าะ ผกก.สภ.จะแนะ จ.นราธิวาส รับแจ้งมีเหตุระเบิดเกิดขึ้นบนถนนสาย 4217 ช่วงบริเวณบ้านไอร์โซ ม.5 ต.ช้างเผือก จึงระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง รุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ เมื่อถึงที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่ได้ปิดกันพื้นที่ห้ามยานพาหนะทุกชนิดผ่าน และพบรถยนต์กระบะ 4 ประตูยี่ห้อโตโยต้า สีขาว ทะเบียน กง 3619 นราธิวาส เสียหลักตกไหล่ทางด้านคนขับตะแคงติดอยู่กับพื้น ส่วนด้านหน้าถูกอนุภาพของระเบิดได้รับความเสียหาย และมีเสาไฟฟ้าริมถนนล้มเอียงอยู่ด้านหน้า 1 ต้น และห่างไปจากจุดรถยนต์กระบะที่เสียหาย ประมาณ 40 เมตร พบผิวการจราจรด้านขวามือก่อนขึ้นเนิน มีร่องรอยของหลุมระเบิด กว้าง 2 เมตรลึก 1 เมตร โยมีเศษซากชิ้นส่วนของระเบิดแสวงเครื่อง ที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 ก.ก. จุดชนวนด้วยแบตเตอรี่ที่คนร้ายลากสายไฟยาวเข้าไปในป่ารกทึบ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้กันพื้นที่เพื่อรอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบจุดเกิดเหตุในช่วงเช้า
ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาวบ้าน จำนวน 3 คน ที่พลเมืองดีได้นำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลจะแนะไปก่อนหน้าแล้ว ทราบชื่อ ต่อมาคือ 1.น.ส.ธัญธิดา กุลประภาสิน 35 ปีคนขับ มีอาการแน่นหน้าอกและหูอื้อ 2. นางประปภาภัทร สุวรรณดิตถ์ 54 ปี มีอาการหูอื้อแน่นหน้าอก และ 3.นายอาชา ราชสุวรรณ มีอาการหูอื้อแน่นหน้าอก ซึ่งทั้ง 3 ราย ยังมีรอยบอบช้ำตามร่างการ และสามารถพูดคุยสื่อสารเรื่องต่างๆได้
จากการสอบสวนทราบว่า ในขณะที่ น.ส.ธัญธิดา ขับรถยนต์กระบะนั่งโดยสารมาด้วยกัน 3 คน หลังเสร็จกิจธุระไปมาหาสู่เยื่ยมญาติตามปกติในพื้นที่บ้านไอร์บือแต ม.4 ต.ช้างเผือก เมื่อขับรถยนต์กระบะผ่านถนนเส้นทางโค้งเพื่อลงเนินมาได้ ประมาณ 40 เมตร ได้มีคนร้ายไม่ทราบกลุ่มและจำนวน ที่แฝงตัวอยู่ในป่ารกทึบริมทาง ได้ใช้แบตเตอรี่จุดชนวนระเบิดที่คนร้ายประกอบใส่ไว้ในถังแก๊สปิกนิก หนัก 25 ก.ก. ที่ลอบนำไปฝังใต้ผิวการจราจร จนเกิดระเบิดขึ้นในขณะที่รถยนต์กระบะ ส่งผลทำให้รถยนต์กระบะถูกอนุภาพของระเบิดกระเด็นลอยจากผิวถนนหมุนตลบไป 3 ถึง 4 รอบ จนกระทั่งไปกระแทกกับเสาไฟฟ้ารถยนต์กระบะจึงหยุด แล้วทั้ง 3 คน เมื่อตั้งสติได้จึงได้พยายามปีนป่ายออกจากตัวรถ พบพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลจะแนะ
ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่คาดว่า กลุ่มคนร้ายคิดว่ารถยนต์กระบะที่ น.ส.ธัญธิดาขับผ่านมา มีลักษณะคล้ายกับรถของเจ้าหน้าที่ คนร้ายจึงได้จุดชนวนระเบิดเพื่อดักสังหาร แต่โชคดีที่ผิวถนนได้ซับอนุภาพของระเบิดไว้จึงทำให้ผู้โดยสาร 3 คน ได้รับบาดเจ็บและรอดตายไปได้อย่างหวุดหวิด
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส
