วันที่ 26 ต.ค. ที่กองบังคับการสืบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี5 อ.เมืองจ.สุราษฎร์ธานี นางจันท์ฤดี อัครวิบูลย์ เจ้าของร้านทองแม่มาลี7 นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.ปรีชา อภัยพงษ์ รองสารวัตร(สอบสวน) กองบังตับการตำรวจสิบสวนสอบสวนอา๙ญากรรมเทคโนโลยี่5 หลังพบว่ามีมิจฉาชีพนำข้อมูลรูปภาพของตนเองและเพจร้าน ไปหลอกกลุ่มลูกค้าเพื่อขอเลขบัญชีจนมีผู้หลงเชื่อ มีการโต้ตอบทางเพจเจอร์ เกรงลูกค้าถูกหลอกจึงเดินทางเข้ามาแจ้งความ
นางจันทร์ฤดี อัครวิบูลย์ เจ้าของร้านทองแม่มาลี7 เปิดเผยว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 25 ต.ค.ได้มีลูกค้าส่งข้อความที่พวกมิจฉาชีพนำรูปภาพของตนเองและใช้ข้อมูลของเพจร้านไปทักแชทส่วนตัวในกลุ่มของลูกค้าของร้านโดยเขียนว่าให้ส่งเลขบัญชีมาให้ และทางร้านจะแจกเงินสดเป็นจำนวน 5 พันบาท ไปให้ภายใน 5 นาที ซึ่งทางร้านไม่ได้มีนโนบายอะไรอย่างนั้น เมื่อเข้าไปดูหน้าเฟซบุ๊กของมิจฉาชีพปรากฎว่า ได้ใช้รูปของตัวเองเป็นหน้าโปรไฟล์ แต่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า“Nattaya Prombut” จึงได้ลองค้นหาชื่อดังกล่าวพบว่ามีการปลอมชื่อดังกล่าวเป็นจำนวนมาก
โดยพฤติกรรมของมิจฉาชีพจะนำชื่อและรูปภาพไปหลอกในลูกค้าในกลุ่มโอเพ่นแชทของร้านที่มีสมาชิกว่า 2 พันคนและเพจของร้านอีกว่า 1 หมื่นคน และจะทักไปในไลน์ส่วนตัวโดยให้กดลิงค์ที่ปลอมขึ้นมาเพื่อหลอกขอข้อมูล จนมีลูกค้าส่งข้อความเข้ามาถามว่าทางร้านได้แจกเงินจำนวน 5 พันบาทจริงหรือไม่ จึงได้รู้ว่าถูกมิจฉาชีพนำข้อมูลไปใช้ จึงได้นำหลักฐานเข้าแจ้งความกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ไว้เป็นหลักฐานเพื่อให้ดำเนินการเอาผิดกับมิจฉาชีพ เพราะอาจจะสร้างความเสียหายให้กับผู้ที่หลงเชื่อได้ อีกทั้งช่วงนี้เป็นช่วงของการระบาดของโควิด19 เงินเป็นสิ่งที่หาได้ยากมากในช่วงนี้หากมาถูกกลุ่มมิจฉาชีพหลอกเอาอีกจะทำให้เดือดร้อนไปตามกัน ดังนั้นเพื่อไม่ให้ลูกค้าถูกหลอกตนจึงได้เดินทางเข้าแจ้งความดังกล่าวไว้เป้นหลักฐาน
ทั้งนี้ฝากเตือนถึงทุกคนว่าอย่าไปหลงเชื่อพวกกลุ่มมิจฉาชีพ และอย่าให้ข้อมูลส่วนตัวหรือส่งเลขบัญชีไปให้ เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินได้
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สุราษฎร์ธานี
