ศูนย์ฯโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มอบถุงยังชีพ 21,195 ถุง ให้แก่สมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) และครอบครัวในพื้นที่ จชต.

0
863

เมื่อวันที่ 8 กันยายน พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะ เดินทางลงพื้นที่ในจังหวัดยะลา และจังหวัดปัตตานี เพื่อพบปะ เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ในพื้นที่ ช่วงสถานการณ์โควิด 19  จำนวน 2 กองพัน ได้แก่ 1. กองพัน อรบอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และกองพัน  อรบโคกโพธิ์ ที่ 1 อำเภอโคกโพธิ์ จังหวัดปัตตานี 

โดยพลตรี ไพศาล หนูสังข์ ได้พบปะ เยี่ยมเยียนให้กำลังใจพี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.)  และสอบถามความเป็นอยู่ ปัญหาข้อขัดข้องในการปฏิบัติงานสถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่ รวมถึงได้เข้าเยี่ยมเยียน ครอบครัวสมาชิก อรบ.ที่มีความลำบาก ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 เป็นกลุ่มเปราะบาง อยู่พื้นที่ห่างไกล ขาดการดูแล และขาดการได้รับความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ ใน 2 พื้นที่ ได้แก่  พื้นที่ หมู่ที่ 2 บ้านกือลอง ตำบลตลิ่งชันอำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา และพื้นที่ หมู่ที่ 7 บ้านหรั่ง ตำบลมะกรูด อำเภอโคกโพธิ์จังหวัดปัตตานี จำนวน 6 ราย ได้แก่ 1. นาย คาน อินทร์ทอง อายุ 76 ปี (เป็นผู้ป่วยติดเตียง ปัจจุบันเป็นอัมพฤกษ์ ) บิดาของ นายวรานนท์ สมาชิก อรบกองร้อยที่ 2 กองพันอรบ.บันนังสตา , 2. นาย สว่าง สุขวงค์ สมาชิก อรบ.กองร้อยที่ 2 กองพันอรบ.บันนังสตา อายุ 52 ปี (เป็นผู้ป่วยติดเตียง สาเหตุเกิดจากเส้นเลือดในสมองแตก ), 3. นายนิคม ไทยปาน อายุ 76 ปี สมาชิก อรบกองร้อย ที่ 2 กองพัน อรบบันนังสตา(เป็นผู้ป่วยติดเตียง ปัจจุบันเป็นอัมพฤกษ์ ), 4. นางสมจิตร คงพูน  อายุ 72 ปี  (ผู้ป่วยติดเตียง สาเหตุเนื่องจากเส้นเลือดในสมองตีบ)น้องสาวของ นาย กระจ่าง จรูญแก้วสมาชิก อรบ.กองร้อยที่ 2 บางโกระ กองพัน อรบ.โคกโพธิ์ที่ 1 ,5. นาย ศรสิริ ศรีเจริญอายุ 48 ปี (เป็นผู้ป่วยติดเตียง สาเหตุเนื่องจากเส้นเลือดในสมองแตก)เป็นน้อง นางปริบรรณ ศรีเพชรคง สมาชิก อรบ.กองร้อยที่ 1 บ้านมะกรูด  กองพัน อรบ.โคกโพธิ์ที่ 1 และ 6. นาง เลี่ยง จันทวงษ์ อายุ 98 ปี (เป็นผู้สูงอายุติดเตียงเป็นย่าของ นาง พิสมัยจันทวงษ์ สมาชิก อรบ.กองร้อยที่ 1 บ้านหรั่ง .7 .มะกรูด กองพัน อรบ.โคกโพธิ์ที่ 1 ในการนี้ พลตรีไพศาล หนูสังข์ และคณะได้พบปะ เยี่ยมเยียน ให้กำลังใจ สอบถามความเป็นอยู่ และความต้องการในช่วงสถานการณ์โควิด 19 พร้อมทั้งมอบความห่วงใย ได้มอบถุงยังชีพ เครื่องอุปโภค – บริโภค เจลแอลกอฮอล์และ หน้ากากอนามัยสร้างความปลาบปลื้มใจให้แก่ สมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) และครอบครัว เป็นอย่างมาก ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID-19 อย่างเคร่งครัด 


ทั้งนี้ พลตรี ไพศาล หนูสังข์ได้ เน้นย้ำความสำนึกในหน้าที่ของการเป็นราษฎรรักษาหมู่บ้านเสริมสร้าง วินัย ความซื่อสัตย์ สุจริต เรียนรู้การอยู่ร่วมกัน รู้จักเคารพสิทธิผู้อื่นสร้างความคุ้นเคยและให้ปฏิบัติงานร่วมกันได้ซึ่งจะก่อให้เกิดความสามัคคีในหมู่คณะและเหนือสิ่งอื่นใด จะเป็นการแสดงออกถึงความจงรัก ภักดี และความหวงแหนในสถาบัน ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อแสดงออกถึงพลังในความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่และยึดมั่น สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามพระราชเสาวนีย์แม่ของแผ่นดิน สมเด็จพระนางเจ้าของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง“ ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มอบความห่วงใย  สานใจ สู้ภัย โควิด19” 

ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ  ปฎิบัติตามนโยบายข้อสั่งการของ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4  ที่มีความห่วงใยกำลังภาคประชาชนในพื้นที่ โดยให้ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จัดถุงยังชีพ จำนวน 21,195 ถุง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อน ช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด19 ให้แก่พี่น้องสมาชิกราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) และครอบครัว ซึ่งโครงการราษฎรอาสารักษาหมู่บ้าน (อรบ.) สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 ทรงมีความห่วงใย ราษฎรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ สืบเนื่องจากปัญหาความไม่สงบในพื้นที่พี่น้องประชาชนได้รับความเดือดร้อน จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กรมราชองครักษ์  ประสานงานกับกองทัพภาคที่ 4 และกรมทหารราบที่ 3 กองพลนาวิกโยธินจัดทำโครงการราษฎรอาสารักษาหมู่บ้านขึ้น ตั้งแต่ปี 2549 โดยให้ทางราชการทหารช่วยดำเนินการฝึกให้ เพื่อป้องกันชีวิตของตนเอง และรักษาความปลอดภัยในหมู่บ้านของตนเอง ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือราษฎร และเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการฝึกการใช้อาวุธ สำหรับป้องกันภัยหมู่บ้าน ป้องกันชีวิต และทรัพย์สินของตนเอง โดยไม่ละทิ้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัย และพื้นที่ทำมาหากิน ตลอดจนช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ไม่ให้ได้บาดเจ็บและเสียชีวิตจากการกระทำของกลุ่ม ผกรในพื้นที่ โดยมีแนวทางการดำเนินงาน พัฒนาศักยภาพเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันตนเองและหมู่บ้าน เพื่อป้องกันการสูญเสีย และเป็นแกนหลักในการดูแล วัด และพระสงฆ์ ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้