โจรจีนบุกโรงพัก 2476ตอนที่ 16( ที่มาของโจรและจัดการฝังศพ)

0
540

  โจรที่บุก สถานี ตำรวจ มีจำนวนมาก เกินที่จะเรียกว่า โจรธรรมดา ดูจากการคาดคะเนที่ถาโถมเข้า นับคร่าวๆได้ เป็นจำนวน 100 คนเศษ ที่ร่วม โจมตีสถานี และยังคงต้องมี คนสนับ สนุน แบบไม่แสดงตัว อีกเท่าไหร่ไม่รู้ และพวกที่มีใจเอนเอียงอีก ก็คงจะไม่น้อย

1.กลุ่มที่ โจมตี สถานี มี อาวุธครบมือ ถูกยิงตายไป 23 ศพ. โดยมากแล้ว เป็นคนที่ไม่เคยเห็นหน้ามาก่อนทั้งสิ้น จากคำบอกเล่า ของนาย รามอุลลา พ่อค้าชาว อินเดีย ว่าในวันปล้นสถานีตำรวจนั้น เมื่อเวลา ก่อนลงมือปล้น ราว  1 ชั่วโมง ในถนนสายใหญ่ ที่เขาตั้งร้านค้าขายอยู่นั้น มีคนจีนแปลกหน้ามาเดินพลุกพล่าน แปลกหน้า จำนวนมาก นาย รานดุลลา เข้าใจว่าพวกนี้เป็นพวก ที่แตกตี่นจะอพยพออกนอกประเทศ ซึ่งเป็นการเข้าใจผิด เพราะที่จริงพวกนี้ไม่ได้เตรียมตัวออกไป แต่เตรียมเวลาลงมือ ทำการร้ายที่ ด้านท้าย ตลาด พอมันได้ยินเสียงปืน จากด้านสถานี ตำรวจ พวกมันก็เข้าเล่นงานพวกเราในตลาดทันที คำบอกเล่า ของ นาย รานดุลลา ซึ่งเป็นชาวอินเดีย ที่ไม่ได้ฝักฝ่ายฝ่ายใด จึงน่าเชื่อได้ว่า ไม่มีอคติ

2.กลุ่ม สนับสนุนนั้น น่าจะเป็นพ่อค้าบางคน ทั้งนี้เราสังเกตได้ว่า พวกพ่อค้าบางคนนั้นรู้ล่วงหน้าหลายวัน แล้ว ว่าจะเกิดมีการปล้นสถานีตำรวจ ในวันที่ 28 ตุลาคม 2476ข่าวนั้นอาจจะมาจาก นางเมีย “ โลเซ็กงี่” ก็เป็นได้ และก่อนจะถึงวันปล้น พวกพ่อค้า แม่ค้า และนายเหมือง ก็พากับ อพยพออกนอก ประเทศ ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2476จนถึง 28 ตุลาคม 2476 แลตั้งแต่วันนั้นถึงวันนี้ ไม่มีคนเหล่านั้นปรากฏตัวในเบตง อีกเลย ทุกคนก็อ้าง ธุรกิจการค้าต้องไป มาลายา แต่ตลอดระยะเวลาเป็นปี พวกนี้ ไม่เคยออกนอกประเทศเลย พร้อมเพรียงกันเลย เหมือนกับครั้งนี้ จึงพอจะสันนิษฐานได้ว่า บุคคลกลุ่มนี้ต้องรู้ล่วงหน้าแน่นอน
ยิ่งกว่านั้น คนที่ไม่กล้าออก นอกราชอาณาจักร เพราะกลัวต้องเสียเงินค่าเข้าเมือง ตอนขากลับ(ตามกฎหมายคนต่างด้าวเข้าเมือง) ก็ยังกล้าออกไป ในคราวนี้ กล้าเสียค่าธรรมเนียม “ถิ่นที่อยู่” เป็นเงินตั้ง หนึ่งร้อยบาท เงินจำนวนนี้ไม่ไช่จำนวนเล็กน้อย
ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่ง บรรดาคนต่างด้าวที่อพยพออกนอกประเทศทั้งหลาย ไม่มีสักคนที่เป็นห่วง คนไทย รวมเจ้าหน้าที่ ด้วย กระซิบบอกให้ทางเจ้าหน้าที่รู้ตัว จะได้ระวังตัว หรือเพราะการปกครองของเจ้าหน้าที ไม่ได้ทำให้ให้พวกเขาชมชอบ รักหรือนิยม

3.กล่าวกันอีก ทางหนึ่งว่า ตั้งแต่รัฐออกกฎหมาย เพิ่มภาษีคนต่างด้าวเข้าเมือง จาก 30 บาท มาเป็น 100 บาท เมื่อไม่นานมานี้นั้น คนต่างด้าวพกันเคียดแค้น พวกเขาต่างอ้างเหตุผลว่า เพราะพวกเขาต่างหากที่นำความเจริญ มาสู่เมืองไทย

เช้าวันที่ 31 ตุลาคม ฑ.ศ. 2476 นาย คลิม แสงสุก สมุห์บัญชีอำเภอ แต่งตัวรัดกุมทะมัดทะแมง ผิดปกติ มีปืนสั้นพกที่เอว แล้วยังสะพาย ปืนยาวอีกด้วย ไม่ทราบว่าจะไปทำอะไรที่ไหน สอบถามแล้วได้ความว่า จะไปทำหน้า ที่เป็น สัปเหร่อ คือคุมคนจีน ผู้ต้องหาจำนวนหนึ่ง ให้ช่วยเก็บศพ โจรจีนที่ถูกเจ้าหน้าที่ ยิงตาย 23 ศพ เอาขึ้นรถบรรทุก พาไปฝังกันที่หลุม หลุม เดียว ที่ได้ให้จีนผู้ต้องหาขุดเตรียมใว้แล้ว ที่หลัง ที่ว่าการ อำเภอหลังเก่า ( อำเภอเก่า ปัจจุบัน เป็นที่ตั้ง ศาลจังหวัด เบตง /บันทึก หน้า 123)

นาย สงวน และอีกหลายคน ก็ได้ติดตาม ไปดูการเก็บศพ และฝังศพ และไม่ได้เข้าดูใกล้ ๆ ไม่ได้กลัว แต่เป็น สาเหตุด้วยกลิ่น ของศพ ที่เสียชีวิต มาแล้ว 4 วัน ดูหน้าตาจำแทบ ดูๆ ไป ใจก็ปลง อนิจจัง ความไม่เที่ยงแท้ของชีวิต พร้อมกับนั้น ก็รู้สึกเห็นใจ “สัปเหร่อ “ จำเป็น คือผู้ต้องหา 8 คน ที่ สมุห์ฯ คลิม เกณท์ เขามา ว่าตั้งแต่เกิดมา พวกเขาเคยแตะต้อง ศพกันมาบ้างแล้วหรือเปล่า แต่ถึงจะเคยจับหรือไม่ก็ต้องทำ เพราะเจ้าหน้าที่ ถือปืนคุมอยู่ ควบคุมการทำงานของ สัปเหร่อ จำเป็น เหล่านี้ทุกฝีก้าว
ในที่สุด การขนศพขึ้นรถบรรทุก ก็เสร็จสิ้น ด้วยอาการทุลักทุเล ตามสมควร แล้วรถก็เคลื่อนไปที่ฝังศพ พิเศษที่ขุดใว้ที่หลัง อำเภอ แต่รถเข้าไปไม่ถึง ไม่มีถนน จึงต้องทำการขนถ่าย ด้วย “ สัปเหร่อจำเป็น” เหล่านั้น อีกครั้งหนึ่ง เป็นครั้งสุดท้าย กว่าจะกลบหลุมเสร็จ ก็เหงื่อไคล้ไหลย้อยไปตามๆๆกัน

อ่านต่อตอนที่ 17