ขนผักบังหน้าแต่ไม่รอด ทิ้งรถแล้วหนี จนท.ค้นเจอยาไอซ์ล๊อตใหญ่ 346 กก. คาดส่งเข้ามาเลย์
พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 พร้อมด้วย พ.ต.อ.พงษ์พันธุ์ แสงสง่า ผู้กำกับการ สภ.สะเดา ร่วมกันแถลงผลข่าว ที่ สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา การจับกุมยาไอซ์ล๊อตใหญ่มหึมาจำนวน 346 ห่อ น้ำหนัก 346 กิโลกรัมหรือห่อละ 1 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 346 ล้านบาท จากประมาณการราคาซื้อขายยาไอซ์ในตลาดขณะนี้ซึ่งอยู่ที่กิโลกรัมละ 1 ล้านบาท
โดยยาไอซ์ล๊อตนี้ถูกตำรวจ สภ.ปาดังเบซาร์ จับกุมได้ขณะออกลาดตระเวนตรวจพื้นที่บริเวณถนนดินแดงเชื่อมต่อระหว่างถนนทางรถไฟกับถนนพลังพัฒนา 1 เส้นทางหลัง สภ.ปาดังเบซาร์ และพบรถยนต์กระบะอีซูซุ สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน ผท 9143 สงขลา ซึ่งบรรทุกตะกร้าผลไม้ขับผ่านมาและส่อพิรุธเจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น แต่รถกระบะคันนี้กลับเร่งเครื่องหนี
เจ้าหน้าที่จึงได้ไล่ติดตามและไปพบรถคันนี้ถูกจอดทิ้งไว้ที่บริเวณบ่อลูกรัง หลังโรงเรียนปาดังติณสูลานนท์ หมู่9 บ้านควนขัน ต.ปาดังเบซาร์ จากการตรวจค้นภายกระบะท้ายพบยาไอซ์จำนวน 346 ห่อซุกซ่อนไว้ในลังผลไม้จำนวน16ลัง ส่วนคนขับและผู้ที่นั่งมาในรถเป็นชาย2คนได้ทิ้งรถหลบหนีไป
พล.ต.ต.ดาวลอย เหมือนเดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เปิดเผยว่า ยาไอซ์ล๊อตนี้เป็นหนึ่งในล๊อตใหญ่ที่สุดที่มีการลักลอบลำเลียงเข้ามาในพื้นที่จ.สงขลา จากการประสานข้อมูลกับทางปปส.ภาค9 พบว่าน่าจะถูกลำเลียงมาจากชายแดนทางภาคอีสานและเตรียมส่งต่อเข้าไปยังประเทศมาเลเซีย
ส่วนรถยนต์คันนี้ทราบชื่อผู้ครอบครองแล้วเป็นผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในพื้นที่อ.หาดใหญ่ซึ่งมีอาชีพค้าผักส่งมาเลเซีย แต่ผลการสอบสวนในเบื้องต้นยังไม่พบความเชื่อมโยงโดยระบุว่าในวันเกิดเหตุมีคนรู้จักมายืมรถไปแต่ไม่ทราบว่านำมาขนยาไอซ์ซึ่งเจ้าหน้าที่รู้เบาะแสของชายทั้งสองคนแล้วอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สงขลา
