ภายหลังมีข่าวว่าโรงงานเฟอร์นิเจอร์ปัตตานีที่ชื่อ บริษัท ซูเพิร์บ ครีเอชั่น เฟอร์นิเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตัดสินใจย้ายฐานการผลิตจาก อ.หนองจิก จ.ปัตตานี ไปยัง จ.ชลบุรี หลังขาดทุนถึง 400 ล้าน จนถึงวันนี้ยังไม่มีสัญญาณทิศทางบวกใดๆ จากทางศอ.บต.ซึ่งเป็นแม่งานหลักชักชวนมาร่วมลงทุน จากแผนโครงการของรัฐบาล “เมืองต้นแบบสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” หวังให้อ.หนองจิกเป็นแหล่งลงทุนทางการเกษตรและอุตสาหกรรม แต่ความจริงแล้วทำตามแผนไม่ได้ ไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม มันส่งผลต่อความเชื่อมั่นต่อการลงทุนทางเศรษฐกิจในพื้นที่ทันที เป็นอีกโครงการที่ผลงานรัฐเดินหน้าไม่สำเร็จ ซ้ำรอย โครงการใหญ่อีกหลายโครงการที่ผ่านมาเช่นนิคมอุตสาหกรรมฮาลาล อ.ปะนาเระ, โรงงานแปรรูปฮาลาลที่อ.หนองจิก และโครงการรัฐอื่นๆอีกหลายแห่งที่กลายเป็นอนุสรณ์ ร้างอยู่ริมถนนสาย เพชรเกษม
ก่อนช่วงปีใหม่ ผู้สื่อข่าวได้รับจดหมายเปิดผนึกจาก บริษัทเฟอร์นิเจอร์ นี้ ลงวันที่ 23 ธค.ที่ผ่านมา หนังสือเปิดผนึกไปถึง เลขาธิการ ศอ.บต. จนถึง พลเอกประยุทธ์ จันท์โอชา นายกรัฐมนตรี เรื่อง ขอยุติการผลิต การลงทุนธุรกิจสำคัญในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันว่าณตอนนี้คงต้องวางแผนยุติไปก่อน

ล่าสุด 6 มค.หลังจากช่วงปิดยาวเทศกาลปีใหม่ ผู้สือข่าวจึงลงไปสอบถามพนักงานในโรงงาน ซึ่งยังคงทำงานตามหน้าที่บางแผนกปิดลงไปแล้ว.3,, แผนก พนักงานที่เหลือบางคนหยุดงานไปก่อน รอคำตอบจากบริษัทว่าจะเดินต่ออย่างไร พนักงานส่วนหนึ่งต้องย้ายมาทำงานแผนกเย็บหนัง และทุกคนยังมีความหวังว่า โรงงานแห่งนี้ยังจะไม่ถูกปิดตัวไปจริงๆ
นส.อัฟซีละห์ ยโซะ หน.แผนกตัดหนัง เปิดใจว่าก่อนมาทำงานที่นี่ก็ถูกเลิกจ้างมาแล้วจากบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เมื่อได้ทำงานที่นี่จึงรู้สึกดีใจมากๆ และสวัสดิการทุกอย่างดีมากๆ และชักชวนน้องชายอีกคนหนึ่งกลับมาจาก มาเลเซียมาทำงานที่นี้ด้วย เมื่อทราบข่าวว่าบริษัทไม่ได้ไปต่อ หลายๆหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่สามารถดำเนินงานตามแผนที่วางไว้ได้ ก็รู้สึกตกใจและใจหาย เพราะในส่วนของตนเอง ต้องเลี้ยงดูแม่ที่มีอายุมากแล้ว ถ้าจะตกงานแล้วก็ต้องตกงานทั้ง 2 คน ครอบครัวต้องลำบากแน่นอน อยากให้ศอ.บต.มาช่วยให้เราทั้งหมดได้มีงานทำที่นี่เหมือนเดิม ถ้าเป็นไปได้ก็ทำตามแผนนโยบายให้ได้ ให้ทุกคนมีงานทำเปิดโอกาสให้น้องๆในพื้นที่ ขยายงานให้ได้หมื่นๆคน ตามที่ได้คุยไว้ค่ะ
นายมูฮำหมัดซอบรี เจ้ะหลงอายุ22ปี แผนกเแพ้คของ กล่าวน้ำตาคลอเบ้า ว่า ตนมาทำงานได้ 3-4 เดือน ผิดหวังมากถ้าโรงงานต้องปิดตัวจริงๆ เพราะผมเองเป็นตัวหลักของครอบครัว ช่วยพ่อแม่รับภาระค่าใช้จ่ายในบ้าน มีน้องเล็กๆอีก 3 คน ที่ยังต้องเรียนอยู่ ถ้าไม่ได้ทำงานที่นี่แล้วคงต้องเสียเวลาหางานใหม่ วางแผนชีวิตใหม่ เดิมที่ตั้งไว้ต้องล่าช้าไปอีก แม่อยู่เลี้นงลูก พ่อก้รับจ้างทั่วไปเล็กๆน้อยๆ ตอนนี้เพื่อนแผนกอื่นก็โดนปิดหยุดผลิต หนุดทำงานแล้วเกือบครึ่ง กระทบต่อการยังชีพและภาระอย่างมากกับหลายๆคนทันทีและพวกเราที่เหลือก็ยังรออยู่ว่าจะโดนเมื่อไหร่
อยากวอนขอผู้ทีส่วนเกี่ยงข้องทั้งรัฐและผู้ใหญ่ทั้งหมดเมตตา ช่วยเหลือพวกเราด้วย เพราะต่างมีภาระต้องเลี้นงดูครอบครัว ทำอย่างไรก้ได้ให้โรงงานนี้ได้อยู่ต่อ ได้ไปต่อ เพราะยังต้องเลี้ยงดูคนได้ไม่ต่ำกว่า 600 คน
ฮานีซัน ติลี กล่าวว่า ก็ภายหลังจากที่บริษัท เกิดผลกระทบ ขาดทุนไปไม่ต่ำกว่า 6 ล้าน ยังไม่รวมหนี้ที่ติดกับทางฮ่องกงอีก จะมากกว่านี้ค่ะ ขณะนี่้ก็ทำให้พนักงานหลายๆคนเกิดผลกระทบปิดไปแล้ว.2-3แผนก เช่นทำโครง ประกอบไม้ ต้องพักงานบางคน และให้ย้ายมาทำงานแผนกตัดเย็บหนัง ซึ่งเขาส่วนใหญ่ไม่มีทักษะด้านนี้เลย หลายๆคนหนักใจมากเพราะถ้าโดนออกไปต้องแล้วจะหางานยากมากๆ รวมทั้งสถานการณ์โควิด ที่เข้ามาซ้ำเติมอีก ทุกคนอยากให้บริษัทและโรงงานอยู่ต่อไปเรื่องนี้กระทบกับครอบครัวคนงาน ข้างหลังเขาอีกหลายร้อยคน ส่งผลลบด้านเศรษฐกิจในพื้นที่ และไม่มีการพัฒนาเพิ่มในพื้นที่ด้วยค่ะ
ทีมข่าว@ชายแดนใต้
