ทหารป่าไม้ตำรวจลงพื้นที่ติดตามปัญหาชาวบ้านนายทุนพิพาทที่ดิน

0
603

ทหารป่าไม้ตำรวจลงพื้นที่ติดตามปัญหาชาวบ้านนายทุนพิพาทที่ดิน

ทหาร พร้อมเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ เจ้าท่า เทศบาลนครเกาะสมุย ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า ปัญหา ที่ดินของนายทุนชาวต่างชาติ ที่เกิดข้อพิพาทกับประชาชน ในพื้นที่เกาะสมุย หลังจากที่ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร.เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา ล่าสุด จากการตรวจสอบ พบว่าพื้นที่ของนายทุนดังกล่าว มีการซื้อมาอย่างถูกต้อง ซึ่งในขั้นตอนนี้ ทางทหารและเทศบาลนครเกาะสมุย จะเชิญฝ่ายชาวบ้าน และนายทุนชาวต่างชาติ มาทำความเข้าใจในเรื่องของการอนุญาตให้ชาวบ้านใช้ทาง หากได้ข้อสรุปกับทุกฝ่าย จะร่วมกันลงนามทำ MOU ร่วมกัน เพื่อให้เป็นทางเดินสาธารณะ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ แต่ต้องหลังปีใหม่ไปแล้ว

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า พ.อ.นิติ ติณลสูลานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 กองทัพภาคที่ 4 พร้อม พ.อ.อายุพันธ์ กรรณสูต  รองผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 กองทัพภาคที่ 4 พ.อ.ต่อศักดิ์ วรรณพงศ์ เสนาธิการกรมทหารราบที่ 15 กองทัพภาคที่ 4 พร้อมด้วย นายสมคิด เจี๊ยวก๊ก หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ เกาะสมุย กรมป่าไม้ นายธรรมนูญ สุขเจริญ ปลัดป้องกัน อำเภอเกาะสมุย พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข รอง.ผกก.ป.สภ.บ่อผุด นายธนาคม รื่นพานิช เลขานายกเทศมนตรีนครเกาะสมุย เเละเจ้าหน้าที่สำนักงานเจ้าท่า สาขาอำเภอเกาะสมุย

ได้ร่วมกันประชุม และ ลงพื้นที่ ในการติดตาม ความคืบหน้า ปัญหาที่ดิน ของบริษัท นายทุนชาวต่างชาติ สัญชาติอิสราเอล ที่สร้างโรงแรมหรูชายหาดแหลมสน ซึ่งเป็นชายหาดที่เป็นแหลมงอกยื่นไปในทะเล บริเวณหมู่ ม.2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี  หลังจากที่เกิดข้อพิพาทกับประชาชน ในพื้นที่ มีการก่อสร้างกำแพงปูนกันน้ำทะเลพื้นที่บุกรุก ทะเล และยังได้มีการก่อสร้างอาคารปิดเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนประมาณ 40 หลังคาเรือน โดยการประชุม ในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้า หลังจากที่ เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.ที่ผ่านมา พล.ต.อ.ศรีวราห์ รอง ผบ.ตร และ นายอรรถพล เจริญชันษา รองอธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจสอบ พร้อมกับชับให้เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ที่เกี่ยวข้องรายงานผลให้ทราบภายใน 3 วัน

โดยในการประชุม จากการที่ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ดินดังกล่าว ที่ชาวต่างชาติซื้อมา สร้างโรงแรมหรู มีเอกสารสิทธิถูกต้อง และมีการขออนุญาตในการก่อสร้างจากเทศบาลนครเกาะสมุย อย่างถูกต้อง แต่ที่ผิดไปคือการสร้างอาคาร เกินจากที่กฎหมายกำหนด ในระยะถอยร่นในการก่อสร้างห่างจากชายทะเล ต้องห่างจากทะเลไม่น้อยกว่า 10 เมตร แต่ที่มีการก่อสร้างพบว่าระยะการถอยร่นเพียง 6 เมตรเท่านั้น ซึ่งในเรื่องนี้ ทางศาลจังหวัดเกาะสมุย ได้ระงับการก่อสร้าง อาคารที่เกินจากกฎหมายกำหนด ไว้ชั่วคราวแล้ว

ขณะที่ชาวบ้านได้รับผลกระทบ ในเรื่องของการใช้เส้นทางผ่าน นั้น ในที่ประชุมยังสรุปได้ว่า หากเจ้าของที่ดินไม่อนุญาต ก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะทางเดินอยู่ในเขตโฉนดที่ดิน และทาง บริษัท ของชาวต่างชาติ ได้กันพื้นที่ให้ประชาชนใช้เส้นทางเลียบริมกำแพง ของโครงการก่อสร้างโรงแรม แต่ประชาชนไม่ยินยอมพ.อ.นิติ ติณลสูลานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 กองทัพภาคที่ 4 พร้อม คณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ สถานที่ก่อสร้างโรงแรมหรู บริเวณชายหาดแหลมสน พื้นที่ ที่เกิดข้อพิพาทกับาวบ้าน และพบกับนายเลิศศักดิ์ เจริญสุข แกนนำชาวบ้าน พร้อมชาวบ้านอีกหลายคน และมีเจ้าหน้าที่ของฝ่าย ชาวต่างชาติ ที่เป็นชาวไทย และชาวต่างชาติ ได้เดินทางมาร่วมสังเกตุการณ์

ทั้งนี้ พ.อ.นิติ ติณลสูลานนท์ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 15 กองทัพภาคที่ 4 ได้พูดคุยกับนายเลิศศักดิ์ เจริญสุข แกนนำชาวบ้าน ที่มารอพบ เจ้าหน้าที่หทาร โดยทางทหารได้เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบที่ดินแปลงดังกล่าว เป็นที่ดินที่ทางนายทุนชาวต่างชาติได้มาอย่างถูกกฎหมาย ในส่วนตรงนี้ ต้องขอความร่วมมือกับทางฝ่ายชาวบ้าน ทำความเข้าใจให้ชาวบ้านเข้าใจ หาข้อกฎหมายตามหลักที่ถูกต้อง ขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่ ทหาร และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทางฝ่ายปกครอง และทางเทศบาลนครเกาะสมุย รวมถึงทางเจ้าท่า จะเรียกทางนายทุน ชาวต่างชาติ รายนี้ มาทำข้อตกลง ในเรื่องของการ ให้ยอมเปิดทางผ่าน บริเวณแนวกำแพง โดยทางบริษัทของนายทุน ต้องยอม เปิดทางให้ชาวบ้านสามารถใช้เส้นทางเข้าออก บริเวณแนวกำแพง เมื่อทุกฝ่ายสามารถรับข้อเสนอนี้ไดทั้งสองฝ่าย ก็จะให้ทำ MOU ร่วมกัน เพื่อให้เป็นทางเดินสาธารณะ และคาดว่าจะได้ข้อสรุปในเร็วๆนี้ แต่ต้องหลังปีใหม่ไปแล้ว

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.สุราษฎร์ธานี