ปัตตานี-แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บังคับกองร้อย ถอดบทเรียน เสริมประสิทธิภาพ ยกระดับดูแลพื้นที่ ย้ำ ผบ.ร้อย ลูกน้องต้องปลอดภัย ประชาชนต้องมีที่พึ่ง

0
414

วันนี้ 11 ธันวาคม ที่สโมสรนายทหารสัญญาบัตร กองพลทหารราบที่ 15 จังหวัดปัตตานี พลโทศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 พบปะมอบนโยบายแก่ผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อย ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์และแนวทางการทำงานให้เกิดประสิทธิภาพ เพื่อใช้ความเข้มแข็งของเจ้าหน้าที่รัฐ ปกป้องพี่น้องประชาชน เจ้าหน้าที่ปลอดภัยพี่น้องประชาชนมีความสุข โดยมี พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ กรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาล (ฝ่ายความมั่นคง) มาบรรยายพิเศษ หัวข้อ “มุมมองของรัฐบาลในการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้านความมั่นคง” พร้อมแนะแนวคิดในการปฏิบัติหน้าที่แก่กำลังพล

พลเอก พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ ผู้แทนพิเศษรัฐบาล กล่าวว่า ลักษณะการก่อเหตุในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ หากเป้าหมายชัด โอกาสมี ทางหนีพร้อม ย่อมเป็นช่องให้กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงสร้างสถานการณ์ได้ การดูแลความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมีประสิทธิผล “ชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่” ถือเป็นหน่วยกำลังสำคัญ เพราะอยู่ใกล้ชิดกับชาวบ้าน สามารถ เข้าถึงหมู่บ้าน ร่วมทุกข์ ร่วมสุข กินอยู่หลับนอน สร้างความอุ่นใจให้กับพี่น้องประชาชน ตลอดจนดูแลสิ่งผิดปกติ เพื่อตัดการเชื่อมต่อของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่อาจจะแฝงตัวเข้ามาภายในหมู่บ้าน หรือหมู่บ้านกับชายป่าขอบเขาได้ ดังนั้น ผู้นำระดับผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับหมวด จะต้องสร้างการรับรู้ การเตรียมการให้กับผู้ปฏิบัติงาน ชป.พิทักษ์พื้นที่ถึงคนสุดท้าย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานควบคุมพื้นที่อย่างได้ผล และปลอดภัย ไม่เกิดการสูญเสีย หรือได้รับบาดเจ็บ”

ขณะที่ พลโท ศานติ ศกุนตนาค กล่าวว่า ความมุ่งหมายของการพบปะผู้บังคับหน่วยระดับกองร้อย คือการมาถอดบทเรียนจากสถานการณ์ที่ผ่านมา ศึกษาและแก้ไขจุดบกพร่อง เสริมสร้างประสบการณ์ให้เกิดความสำเร็จ ลูกน้องต้องปลอดภัย ประชาชนต้องมีที่พึ่ง หากเจ้าหน้าที่โดนกระทำและบาดเจ็บ จะปกป้องพี่น้องได้อย่างไร ยโดยเฉพาะช่วงส่งท้ายเก่า รับปีใหม่ ในพื้นที่มีการจัดกิจกรรมมากมาย ประชาชนมีเดินทางเข้า – ออกในพื้นที่จำนวนมาก จะต้องเตรียมพร้อมทุกสถานการณ์ทั้งเชิงรับและเชิงรุก ไม่ประมาทเป็นอันขาด เพื่อเรียกความศรัทธาของพี่น้องประชาชนกลับคืนมา”

นอกจากนี้ ผู้บังคับกองร้อยจะต้องนำหลักการพื้นฐานในการปฏิบัติพิทักษ์พื้นที่สร้างการรับรู้ให้แก่เจ้าหน้าที่หน้าแนวทุกนายให้รับทราบและปฏิบัติได้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน เน้นย้ำให้ทุกฝ่ายเพิ่มมาตรการในการดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างเข้มงวด ด้านการบังคับใช้กฏหมายต่อผู้ก่อเหตุรุนแรง ต้องปฏิบัติงานภายใต้หลักมนุษยธรรม วางแผนให้ชัดเจน โปร่งใส บูรณาการร่วมกำลังทุกภาคส่วน เพื่อจำกัดเสรีการก่อเหตุ ควบคู่กับการสร้างความเข้าใจต่อผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น พี่น้องประชาชน ตลอดจนเครือญาติถึงความผิดทางกฎหมายในการให้แหล่งพักพิง และการสนับสนุนช่วยเหลือกับผู้ก่อเหตุรุนแรง การปฏิบัติงานของชุดปฏิบัติการพิทักษ์พื้นที่ ให้ผู้บังคับกองร้อยได้กำกับดูแลการทำงานของกำลังพลอย่างใกล้ชิด ครอบคลุม หมั่นเพิ่มเติมความรู้ ความสามารถให้กับกำลังพลในการปฏิบัติงาน ผู้บังคับกองร้อยต้องรู้จักวิเคราะจุดแข็ง จุดอ่อน ของชุดตนเอง เพื่อการปฏิบัติให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ตลอดจนนำทีมปฏิบัติในทุกกระบวนการ ทุกขั้นตอน เกิดความปลอดภัย เพื่อให้พี่น้องประชาชนเป็นที่พึ่ง เกิดความเชื่อมั่น ศรัทธาในการทำงาน สร้างสันติสุขในพื้นที่ต่อไป