ยะลา -เชิงรุก เร่งฉีดวัคซีนเด็กนักเรียน อายุ 0-4 ปี หลังพบติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ประชาชนภูมิเริ่มลดลง

0
232


วันนี้ 18 พ.ย.65 เวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่จาก รพ.ยะลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ออกหน่วยให้บริการเชิงรุก ในพื้นทีชุมชน และโรงเรียน เพื่อสรใ้างภูมิคุม้กัน หลังเริ่มพบผู้ป่วยโควิด19 เพิ่มขึ้น โดยเดินทางออกหน่วย ที่มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา(ฉือเซียงตึ้ง) ในเขตเทศบาลนครยะลา ประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุ ตบเท้าที่เข้ารับบริการ ขณะการออกให้บริการฉีดวัคซีน ที่โรงเรียนอนุบาลยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ปกครองและครูได้นำเด็กนักเรียน เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด 19 หลังสถานการณ์การระบาดโควิด19 ในพื้นที่ จ.ยะลา เริ่มมีแนวโน้มของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีอายุ 0-4 ที่มีอัตราการติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก
ขณะที่ มีรายงานจาก นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ถึงสถานการณ์โควิด19 จังหวัดยะลา พบว่า ในช่วงสัปดาห์วันที่ 6-12 พ.ย.2565 พบผู้ป่วยจำนวน 728 ราย เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้า 30.9 % หรือ 556 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผลจากอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่หน้าฝน-หน้าหนาว นักเรียนเปิดเทอม ประชาชนมีกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก
พญ.จุฑาทิพย์ สากลกิจจานุกูล แพทย์ประจำบ้าน สาขาเวชศาสตร์ ครอบครัวและชุมชน รพ.ยะลา กล่าวว่า การติดเชื้อและผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากประชาชนเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ลดลง ทำให้ภูมิต้านทานเริ่มน้อยลง ประกอบกับการมีกิจกรรมต่างๆ ช่วงปลายปีมากขึ้น ทำให้โอกาสเสี่ยงการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ย้ำว่า วัคซีนโควิด 19 ยังจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง เพราะภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลา โดยเฉพาะกลุ่ม 608 จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และกลุ่มเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ที่เพิ่งเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด 19 ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ต้องเร่งรัดการฉีด เนื่องจากมีโอกาสติดเชื้อสูงจากคนในครอบครัวที่ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยช่วงที่มีการระบาดของโอมิครอนที่ผ่านมา เด็กเล็กมีการอัตราการป่วยตายสูงกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า ดังนั้น จึงขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองเร่งนำบุตรหลานมารับวัคซีนโควิด 19 เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและอาการหนักจนเสียชีวิต วัคซีนจะช่วยลดการป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะ เด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปีที่ยังไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน จะมีโอกาสป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูงกว่าเด็กโต ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองพามารับวัคซีนที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่ายยะลาเชิงรุก เร่งฉีดวัคซีนเด็กนักเรียน อายุ 0-4 ปี หลังพบติดเชื้อเพิ่มขึ้น ขณะที่ประชาชนภูมิเริ่มลดลง
วันนี้ 18 พ.ย.65 เวลา 14.30 น. เจ้าหน้าที่จาก รพ.ยะลา ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดยะลา ได้ออกหน่วยให้บริการเชิงรุก ในพื้นทีชุมชน และโรงเรียน เพื่อสรใ้างภูมิคุม้กัน หลังเริ่มพบผู้ป่วยโควิด19 เพิ่มขึ้น โดยเดินทางออกหน่วย ที่มูลนิธิแม่กอเหนี่ยวยะลา(ฉือเซียงตึ้ง) ในเขตเทศบาลนครยะลา ประชาชนทั่วไปและผู้สูงอายุ ตบเท้าที่เข้ารับบริการ ขณะการออกให้บริการฉีดวัคซีน ที่โรงเรียนอนุบาลยะลา อ.เมือง จ.ยะลา ผู้ปกครองและครูได้นำเด็กนักเรียน เข้ารับบริการฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันความรุนแรงจากการติดเชื้อโควิด 19 หลังสถานการณ์การระบาดโควิด19 ในพื้นที่ จ.ยะลา เริ่มมีแนวโน้มของผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มเด็กที่มีอายุ 0-4 ที่มีอัตราการติดเชื้อรุนแรงและเสียชีวิตเป็นจำนวนมาก


ขณะที่ มีรายงานจาก นพ.วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดยะลา ถึงสถานการณ์โควิด19 จังหวัดยะลา พบว่า ในช่วงสัปดาห์วันที่ 6-12 พ.ย.2565 พบผู้ป่วยจำนวน 728 ราย เพิ่มจากสัปดาห์ก่อนหน้า 30.9 % หรือ 556 ราย ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต ซึ่งเป็นผลจากอากาศเริ่มเปลี่ยนแปลงเข้าสู่หน้าฝน-หน้าหนาว นักเรียนเปิดเทอม ประชาชนมีกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมาก
พญ.จุฑาทิพย์ สากลกิจจานุกูล แพทย์ประจำบ้าน สาขาเวชศาสตร์ ครอบครัวและชุมชน รพ.ยะลา กล่าวว่า การติดเชื้อและผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นในปัจจุบัน ส่วนหนึ่งมาจากประชาชนเริ่มฉีดวัคซีนป้องกันโควิด 19 ลดลง ทำให้ภูมิต้านทานเริ่มน้อยลง ประกอบกับการมีกิจกรรมต่างๆ ช่วงปลายปีมากขึ้น ทำให้โอกาสเสี่ยงการติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้ ทั้งนี้ย้ำว่า วัคซีนโควิด 19 ยังจำเป็นต้องฉีดกระตุ้นต่อเนื่อง เพราะภูมิคุ้มกันจะลดลงตามระยะเวลา โดยเฉพาะกลุ่ม 608 จึงขอให้ประชาชนที่ยังไม่ได้รับวัคซีน หรือไม่ได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้น และกลุ่มเด็กเล็กอายุ 6 เดือน ถึง 4 ปี ที่เพิ่งเริ่มมีการฉีดวัคซีนโควิด 19 ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มเป้าหมายสำคัญที่ต้องเร่งรัดการฉีด เนื่องจากมีโอกาสติดเชื้อสูงจากคนในครอบครัวที่ออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน โดยช่วงที่มีการระบาดของโอมิครอนที่ผ่านมา เด็กเล็กมีการอัตราการป่วยตายสูงกว่าเด็กโตถึง 3 เท่า ดังนั้น จึงขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองเร่งนำบุตรหลานมารับวัคซีนโควิด 19 เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อและอาการหนักจนเสียชีวิต วัคซีนจะช่วยลดการป่วยอาการหนักและเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะ เด็กอายุ 6 เดือน – 4 ปีที่ยังไม่เคยรับวัคซีนมาก่อน จะมีโอกาสป่วยอาการรุนแรงและเสียชีวิตสูงกว่าเด็กโต ขอให้พ่อแม่ผู้ปกครองพามารับวัคซีนที่โรงพยาบาลใกล้บ้านโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

มะลูดิง ตีโด ทีมข่าว@ชายแดนใต้ ยะลา