รับ”วันสารทเดือนสิบ”ชาวเบตง ออกจับจ่ายซื้อขนมเดือนสิบเตรียมทำบุญส่งตายายพรุ่งนี้

0
372


ยะลา –ชาวอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ออกจับจ่ายซื้อขนมเดือนสิบที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงปีนี้ไม่คึกคัก แต่ประชาชนยังคงสืบสานประเพณี เตรียมจับจ่ายซื้อของไปวัดทำบุญส่งตายาย “วันสารทเดือนสิบ” ที่เป็นประเพณีชาวใต้ในวันที่ 10 กันยายน นี้
เมื่อวันที่ 9 ก.ย.65 ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา ประชาชนชาวเบตงได้ทยอยเออกมาเลือกซื้อขนมเดือนสิบกันอย่างต่อเนื่อง แต่ปีนี้ไม่คึกคักเหมือนปีที่ผ่านมา ก่อนการระบาดโควิด-19 แต่อย่างไรก็ตามชาวใต้ยังคงสืบสานประเพณีออกมาเลือกซื้อขนมเดือนสิบ เพื่อเตรียมไว้สำหรับนำไปทำบุญที่วัดใกล้บ้าน เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้แก่บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้ว และเพื่อให้เกิดความเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัวในช่วงประเพณีวันสารทเดือนสิบ ในวันที่ 10 กันยายน ที่จะถึงนี้
ด้านแม่ค้าขายขนมเดือนสิบที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง กล่าวว่า ปีนี้มีชาวเบตงออกมาซื้อขนมเดือนสิบเพื่อเตรียมไว้ก่อนที่จะทำบุญในวันที่ 10 กันยาน ที่จะถึงในปีนี้ ไม่มากนัก เพราะประชาชนต่าง อยู่ในช่วงกำลังฟื้นตัว และต่างประสบปัญหาเศรษฐกิจ สินค้าอุปโภค บริโภค ขึ้นราคา ส่วนแม่ค้าปีนี้เหลือ 3 เจ้าเพราะกลัวขายไม่ได้ ตั้งแต่แก๊สขนาด 15 กก. ปรับขึ้นเป็น 480 บาทและวัตถุดิบที่นำมาทำขนมเดือนสิบปรับขึ้นราคาเกือบทุกอย่างปีนี้จึงเหลือแม่ค้าไม่มากเหมือนปีที่ปีที่ผ่านมา โดยปกติในวันนี้ที่หน้าตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง ทั้งแม่ค้า พ่อค้าและ คนซื้อ เต็มไปหมดแต่ปีนี้ลดลงน่าใจหาย


สำหรับราคาของขนมเดือนสิบปีนี้ ยังไม่ปรับราคา ยังขายในราคาเดิมของปีที่แล้ว แม้ปีนี้ราคาวัตถุดิบในการทำขนมขยับเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งขนมเดือนสิบส่วนใหญ่ทำมาจากแป้งข้าวเหนียว และวัตถุดิบอื่นก็ปรับราคาเช่นกัน ขนมที่จะต้องใช้ในเดือนสิบ แม่ค้าก็จะจัดแบ่งขายเป็นถุงๆ ไว้ด้วย รวมทั้งขนมพอง ขนมลา ซึ่งจะทำแบบรวมขนมเดือนสิบเป็นถุงถุงละ 20- 30-40 และ 50 บาท เพื่อให้ประชาชนได้เลือกซื้อตามความต้องการ
ขณะที่ความหมายของขนมเดือนสิบ “ขนมลา” มีความหมายใช้แทนเสื้อผ้าที่อุทิศให้เปรตชน หรือบางคนเชื่อว่าเส้นของลาเล็กๆ ทำเปรตกินได้ เพราะเชื่อว่าเปรตมีปากเล็กเท่ารูเข็ม “ขนมพอง” มีความหมายใช้แทนเป็นเครื่องประดับมีสีสันสวยงาม “ขนมดีซำ” หรือขนมเจาะหู มีความหมายใช้แทนเงินทอง เพราะมีลักษณะกลมเจาะรูตรงลางคล้ายกับเงินสตางค์ที่มีรูตรงกลาง ซึ่งใช้กันในสมัยก่อน “ขนมบ้า” มีความหมายใช้แทนเงินเหรียญเพราะมีลักษณะเป็นแผ่นกลมคล้ายเหรียญ และ “ขนมเทียน” มีความหมายใช้แทนหมอน ส่วนประเพณีทำบุญเพื่ออุทิศส่วนกุศลให้บุคคลที่ล่วงลับไปแล้ว ในเดือน 10 เป็นสองวาระคือ วันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 ครั้งหนึ่ง และวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 อีกครั้งหนึ่ง โดยถือคติว่า พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตายาย และญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเฉพาะผู้ที่ต้องตกนรก หรือเรียกว่าเปรตนั้น จะได้รับอนุญาตให้มาพบกับญาติของตนในเมืองมนุษย์ได้ในวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 และกลับไปสู่นรกดังเดิม ในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 ดังนั้น จึงมีการทำบุญในสองวาระ ดังกล่าวนี้ แต่ส่วนใหญ่ทำวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10 เพราะมีความสำคัญ มากกว่า

ข่าว..เจษฎา สิริโยทัย อ.เบตง จ.ยะลา