ปัตตานี – ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมจนยอมอบตัว รวบแกนนำระดับสั่งการ หมายจับ 4 หมาย (มีคลิป)

0
725

วันที่ 7 กย. ชุดปฏิบัติการณ์ร่วมปัตตานี นำโดย พ.อ.ทวีพร คณะทอง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 ได้สนธิกำลังเข้าพิสูจน์ทราบและปิดล้อมตรวจค้นบ้านต้องสงสัยในพื้นที่ ม.5 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ จ.ปัตตานี หลังได้รับแจ้งจากสายข่าวว่า พบเห็นผู้ต้องสงสัยตามหมายจับเข้ามาหลบซ่อนตัวภายในบ้านหลังดังกล่าว โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังทำการปิดล้อม และได้ประกาศให้เจ้าของบ้านและผู้ที่อยู่ภายในบ้านออกมาจากบ้าน ซึ่งมีผู้อาศัยภายในบ้าน จำนวน 4 คนได้เดินออกมา และหลังจากได้สอบถามเจ้าของบ้าน ทราบว่า มีอีก 1 คนที่ยังอยูภายในบ้านซึ่งได้ขอเข้ามาอาศัยมาก่อนหน้านี้ เจ้าหน้าที่จึงได้ประสานเชิญผู้นพำศาสนาเข้ามาร่วมเจรจาเพื่อให้ผู้ต้องสงสัยที่หลบอยู่ในบ้านออกมามอบตัว ซึ่งการเจรจาผ่านไป 30 นาทีสามารถเจรจาได้เป็นผลสำเร็จ โดยผู้ต้องสงสัยเดินออกมายกมือทั้งสองข้างเหนือศรีษะ เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมตัว โดยที่ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นแต่อย่างใด

จากการสอบสวนทราบชื่อ นายรออีซะ แวอาแซ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 19 บ่านกาแระ ม.2 ต.มะนังดาลำ อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีประวัติเป็นแกนนำระดับหัวหน้าปฏิบัติรับผิดชอบในพื้นที่ อ.สายบุรี อ.กะพ้อ และ อ.ไม้แก่น และมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 4 หมาย ประกอบด้วย 1.เหตุยิง อาสาสมัครทหารพราน มูฮามะสอบรี ซาเราะ สังกัด กองร้อยทหารพรานที่ 4209 เสียชีวิต บริเวณตลาดนัดบ้านบือแนราเมาะ หมู่ที่ 4 ตำบลมะนังดาลำอำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อ 14 กุมภาพันธ์ 2557 2.เหตุปล้นรถส่งนมที่เข้ามาส่งนมในโรงเรียนบ้านชะเมาสามต้น พื้นที่หมู่ที่ 5 ตำบลเตราะบอน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อ 30 สิงหาคม 2559 3.เหตุทำลายกล้องวงจรปิดในพื้นที่ อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อ 19 มิถุนายน2562 และ 4.เหตุสะสมกำลังพล ตระเตรียมอาวุธ ทรัพย์สินเพื่อก่อการร้าย หรือสมคมกันก่อการร้าย เมื่อ 6 มีนาคม 2563

ซึ่งภายหลังการจับกุม เจ้าหน้าที่ได้นำตัวเข้าไปยังศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 43 เพื่อทำการสอบสวนขยายผลและตรวจเก็บดีเอ็นเอ เพื่อเปรียบเทียบจากข้อมูลคดีความมั่นคงว่า มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มและการก่อเหตุใดมาบ้าง

ขณะที่ พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา ผบ.ฉก.ปัตตานี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยวางมาตราการณ์เข้มทุกอำเภอ เพื่อป้องกันการตอบโต้ของกลุ่มคนร้าย เนื่องจากพบความเคลื่อนไหวคาดว่าอาจจะมีการตอบโต้และก่อกวนรวมไปถึงลอบทำร้ายเป้าหมายอ่อนแอ จึงให้จุดตรวจจุดสกัด ชุดลาดตระเวน รวมไปถึงฐานปฏิบัติการณ์ให้จัดกำลังสนธิกำลังร่วมเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด