คลื่นซัดทรายจมบ้าน ถนน เหตุเพราะกำแพงพัง วอนรัฐเร่งแก้ไข ก่อนที่จะเกิดหนักไปมากกว่านี้

0
3325

ชาวประมงบ้านบาเฆะ ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส วอนทางการซ่อมกำแพงปูนกันคลื่นเซาะฝั่งมีระดับต่ำ ถูกคลื่นซัดจนพัง หอบทรายทับถนนจมมิด และบ้านเรือนกำลังจะถูกทรายกลืน

นาง แมะ ดอเลาะห์ อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 128 ม.1 ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ทำอาชีพเป็นชาวประมงหาปลานำมาแปลสภาพทำปลาเค็มขาย และหมักน้ำบูดูบรรจุโอ่งขายตามตลาดสด เปิดเผยว่า กำแพงปูนกันคลื่นเซาะฝั่งที่ทางจังหวัดได้สร้างมาเกือบ 4 ปี มาแล้ว แต่ในห้วง 3 ปี ที่ผ่านมา ถูกคลื่นลมแรงซัดจนกำแพงปูนกันคลื่นพังเป็นช่วง ๆ และคลื่นทะเลยังหอบทรายเป็นจำนวนมากขึ้นฝั่งจนทับถนนภายในหมู่บ้านจนมิดสูงเกือบ 1 เมตร


ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในละแวกดังกล่าวไม่สามารถนำรถ 3 ล้อพ่วงเข้าบ้านได้ เนื่องจากทรายทับโรงรถจนสูงไม่สามารถนำรถเข้าโรงรถได้ จึงต้องทำการตักขนทรายไปทำเป็นกำแพงกันน้ำทะเลที่เข้าทำลายโอ่งหมักน้ำบูดูแทน ซึ่งหากมีฝนตกหนักและคลื่นลมแรงทุกครั้ง ชาวบ้านต้องเตรียมป้องกันอย่างเต็มที่โดยการนำทรายบรรจุในถุงปุ๋ยเพื่อกันน้ำทะเลซัด เพราะส่วนใหญ่น้ำจะขึ้นในช่วงกลางคืน ซึ่งเป็นช่วงที่ทุกคนพักผ่อนกันหมดแล้ว จึงหาคนช่วยลำบาก บางครอบครัวจะย้ายครอบครัวไปอาศัยที่บ้านญาติในเมืองแทน

แต่สำหรับที่ตรงนี้เป็นที่ที่เหมาะกับทำอาชีพประมง สามารถนำปลาขึ้นตะข่ายมาตากแดดได้สะดวก รวมถึงมีพื้นที่ที่กว้างพอสำหรับการหมักน้ำบูดูในโอ่งได้ อีกทั้งกลิ่นไม่รบกวนชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงอีกด้วย เนื่องจากส่วนใหญ่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านแห่งนี้ทำอาชีพเดียวกันหมดทุกครอบครัว จึงไม่มีปัญหาในเรื่องดังกล่าว

“จึงขอวิงวอนให้ทางจังหวัดนำหินขนาดใหญ่มาถมเพื่อเสริมความแข็งแรงและยกระดับให้กำแพงปูนกันคลื่นให้สูงขึ้นกว่าเดิม เพราะเวลาคลื่นลมแรงจะมีความสูง 2 – 4 เมตร ซึ่งกำแพงกันคลื่นอันเดิมสูงเพียง 1 เมตร เศษ และไม่สามารถป้องกันและสกัดกั้นคลื่นที่มีความสูงมากกว่าได้ และเมื่อคลื่นสามารถฝ่าข้ามกำแพงปูนกันคลื่นมาได้แล้วก็จะทำให้ทั้งน้ำทะเลและทรายทะลักเข้ามาทับถมบนถนนและบ้านเรือนราษฎรได้ทันที อีกทั้งยังทำให้กำแพงปูนกันคลื่นที่สร้างมานั้นได้รับความเสียหายไปด้วยและไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลยเสียทั้งงบประมาณ และเวลา”

ส่วนบ้านบาเฆะ ม.1 ต.โคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส เป็นหมู่บ้านชาวประมงที่เคยเกิดคลื่นมรสุมซัดจนบ้านพังไปหลายหลังเมื่อ 4 ปี ก่อน แต่ทางรัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณสร้างบ้านให้อยู่ โดยย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากเกรงจะไม่ปลอดภัย.

ภาพ/ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร บก.@ชายแดนใน้ จ.นราธิวาส