นราธิวาส – ผู้ว่าฯผลักดันวาระขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

0
608


ที่ห้องประชุมพระนราภิบาล ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส ชั้น 5 หลังปีใหม่ นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 1/2565 โดยมีนายบุญพาศ รักนุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายปรีชา นวลน้อย ปลัดจังหวัดนราธิวาส ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ และฝ่ายเกี่ยวข้องร่วม

ในที่ประชุมได้มีการประกาศตามวาระจังหวัด การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวมถึงการแต่งตั้งคณะกรรมการคณะกรรมการบริหารศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงจังหวัดนราธิวาส และการรายงานแผนปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง

ซึ่งในครั้งนี้ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้ลงนามในประกาศจังหวัด เรื่องวาระจังหวัดนราธิวาส ขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ภายใต้โครงการ “คนนรา รวมพลังแก้จน พัฒนาทุกช่วงวัย “ ตามมิติความยากจน 5 มิติ ด้านสุขภาพ ด้านความเป็นอยู่ ด้านการศึกษา ด้านรายได้และด้านการเข้าถึงบริการภาครัฐ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนนายอำเภอทั้ง 13 อำเภอ ร่วมลงนามฯ

นายสนั่น พงษ์อักษร ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า นโยบายของนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยให้แต่ละจังหวัดแก้ไขปัญหาความยากจนของประชาชนอย่างแท้จริง ขณะที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เน้นย้ำว่า “คนนราธิวาสต้องไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ซึ่งเป็นไปตามแนวทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของจังหวัด ใน 2 มิติ คือการยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และการยกระดับรายได้ทางเศรษฐกิจ ในภาคอุตสาหกรรมและแรงงาน อาทิ ด้านเศรษฐกิจ สังคม ท่องเที่ยว อุตสาหกรรม และการศึกษา พร้อมกล่าวเพิ่มเติมว่า ถึงจุดเน้นหนักในการพัฒนาจังหวัดนราธิวาส ใน 5 เรื่อง เช่น สวัสดิการของรัฐต้องมีทุกคน ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ผู้ป่วยติดเตียง ผู้พิการต้องดีขึ้น การส่งเสริมอาชีพ และการแก้ไขปัญหาหนี้สิน พร้อมกันนี้เน้นย้ำให้นายอำเภอทุกอำเภอเร่งดำเนินการติดตามฯและรายงายผลให้ทันตามที่กำหนดไว้

สำหรับจังหวัดนราธิวาสโดยศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยฯและทีมปฏิบัติการในระดับพื้นที่ได้มีการตรวจสอบข้อมูลบุคคล ครัวเรือนเป้าหมายจากระบบ TPMAP ในกลุ่มคนที่ตกหล่น และกลุ่มคนเปราะบาง เพื่อให้การช่วยเหลือตรงกับสภาพปัญหาในแต่ละมิติ ข้อมูลล่าสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2564 โดยจำนวนครัวเรือนที่ผ่านการรับรอง 9,233 ครัวเรือน จำนวนครัวเรือนที่ตกเกณฑ์เป้าหมาย 2,548 ครัวเรือน และครัวเรือนที่ต้องได้รับการช่วยเหลือจำนวน 1,556 ครัวเรือน
ในวาระอื่นๆผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ประธานในที่ประชุมได้ถามว่า มีใครต้องการแสดงความเห็นอะไรบ้าง ผมได้ยกมื้อขึ้น ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เชิญพัฒนาการอำเภอรือเสาะ,เรียน ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราวาสและผู้เข้าประชุมที่เคารพรักทุกท่าน

ด้านนายอับดุลนัสเซอร์ หะมิ พัฒนาการอำเภอรือเสาะ นำเสนอเรื่องการแก้ไขปัญหาความยากจน อำเภอรือเสาะ มีการประชุมทุกภาคส่วน มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือร่วมมือสนับสนุนอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นเกษตรอำเภอ,ปศุสัตว์อำเภอ,ประมงอำเภอ,วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส,วิทยาลัยการอาชีพรามัน,มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์,มหาวิทยาลัยราชถัฎยะลา,องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น,สาธารณสุขอำเภอ,ผอ.โรงพยาบาล,ธนาคาร,เกษตรและสหกรณ์,รัฐวิสาหกิจ,คณะครู อาจารย์,พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์,ทหาร,ตำรวจและทุกภาคส่วน ประกอบกับนางสิริวิมล พงษ์อักษร นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนราธิวาส ก็มีส่วนช่วยเติมเต็ม ซึ่งท่านไปเยี่ยมมอบไม้เท้าเลเซอร์ช่วยเดินแก่ผู้ป่วยที่บ้านจือแร หมู่ที่ 3 ตำบลสาวอ อำเภอรือเสาะเป็นทางการเป็นอำเภอแรก จึงมีความมั่นใจว่า โครงการนี้จะทำได้สำเร็จ เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีมีสุขและทุกคนสามารถยิ้มได้ ในขณะที่จังหวัดนราธิวาส บ้านเรามีปัญหา ด้านความสงบและปัญหาอื่นๆหลายปัญหาด้วยกัน อีกทั้งนายวิชาญ ชัยเศรษฐสัมพันธ์ นายอำเภอรือเสาะ ขอความอนุเคราะห์จากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เพื่อสร้างความต่อเนื่อง ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนโควิด -19 ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่มีความปลอดภัยจากการแพร่เชื้อโควิด-19 กล่าวคือ อำเภอรือเสาะได้มีการรณรงค์ฉีดวัคซีนเชิงรุกทุกพื้นที่ใน 72 หมู่บ้าน 9 ตำบล กับ 1 เทศบาล ได้เกิน 70 % ทำให้อำเภอรือเสาะ สามารถเปิดโรงเรียนได้ครบ 100 % เป็นอำเภอแรกของจังหวัดนราธิวาสและมีแผนที่จะฉีดวัคซีนเชิงรุกให้มากที่สุด อาจจะครบ 100 % เว้นแต่ผู้ที่มีโรคที่นายแพทย์รับรองว่าฉีดวัคซีนไม่ได้ โดยวิธีขอความร่วมมือ พูดจา สุภาพนอบน้อม ใช้หลักจิตวิทยา ฟังประชาชนก่อนว่า มีเหตุผลอะไรที่ยังไม่ฉีดแล้วคอยอธิบายข้อดีข้อเสียให้เข้าใจอย่างถูกต้อง ให้ประชาชนตัดสินใจ สมัครใจฉีดเอง จึงขอความอนุเคราะห์วัคซีน สัปดาห์ละ 2,000 โดส เริ่มตั้งแต่วันจันทร์ที่ 10 มกราคม 2565 เป็นต้นไป ไม่ได้ขอเพื่อส่วนตัว แต่เป็นการทำงานเพื่อส่วนรวม เป็นการตอบแทนคุณแผ่นดิน

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร บก.@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส