เมื่อวานนี้ชาวบ้านกลุ่มรักษ์จะนะ และเครือข่ายต่างร่วมกันออกมาแสดงจุดยืนต่อสู้ ต่อต้านในความไม่ยุติธรรม ของโครงการอุตสาหกรรมจะนะ ที่รัฐบาลรับปากว่า จะต้องปรับแผนนโยบาย แต่กลับยังคงมีความเคลือบแคลง ปิดบัง ในทางปฎิบัติไม่ตรงกับที่พูดไว้ ล่าสุดเจ้าหน้าที่รับคำฟ้องร้องนส.ไครียะห นศ.ตัวเล็กๆ ที่ออกมาปกป้องบ้านเกิดตนเองอีก ทุกคนจึงต้องแสดงจุดยืน
มีการออกแถลงการณ์ ดังนี้
คำประกาศเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น
พี่น้องประชาชนที่เคารพรักทุกท่าน พวกเราเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น มีความเห็นมีความรู้สึกในกรณีการออกหมายเรียกนางสาวไครียะห์ ระหมันยะ ของตำรวจและรัฐบาลชุดนี้
เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นได้ยืนหยัดต่อสู้เพื่อชุมชน เพื่อทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมนับเวลากว่า 30 ปีแล้ว พวกเราโดนกระทำผ่านนโยบายภาครัฐตั้งแต่เรื่องเรือประมงพาณิชย์เรืออวนรุนอวนลาก เรือปลากระตักที่เข้ามาทำลายล้างสัตว์น้ำจนต้องอพยพไปหากินต่างบ้านต่างเมืองมาแล้ว เพราะสัตว์น้ำถูกจับถูกทำลายไปเกือบหมด ทหารซ้อมปืนใหญ่ลงบนบ้านปลาที่ชุมชนทำไว้ให้สัตว์ได้พักวางไข่ พวกเราไปขอพบและเจรจาจนทหารเปลี่ยนที่ซ้อมยิงปืน เราสู้กับนโยบายภาครัฐกับรัฐบาลที่จะเปลี่ยนอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ให้เป็นเมืองมาบตาพุด 2 ตั้งแต่สมัยนายกชวน นายกทักษิณ จนถึงนายกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในช่วงที่ผ่านมาเราโดนข่มขู่ คุกคาม ทำลายทรัพย์สิน และทำร้ายร่างกาย ยัดข้อหา โดนดำเนินคดีมานับไม่ถ้วน
เราอยู่บนแผ่นดินจะนะอย่างกังวลและกลัวว่ารัฐบาลและหน่วยงานมาทำลายชุมชนและสิ่งแวดล้อมของเราอยู่ตลอดเวลา ครั้งนี้เราโดนคดีที่ถูกสลายการชุมนุมที่กรุงเทพ 37 คน และล่าสุดถูกออกหมายเรียกอีก 1 คนคือ นางสาวไครียะห์ ระหมันยะ รวมเป็น 38 คน รัฐบาลเล่นไม่เลิกเพียงเพื่อผลประโยชน์ของนายทุนและพวกพ้อง เราโดนอำนาจ โดนดำเนินคดี โดนใส่ร้ายป้ายสีให้เป็นโน่นเป็นนี่ เพื่อสร้างความชอบธรรมให้แก่รัฐบาลขจัดและทำลายพวกเรามานับครั้งไม่ถ้วน พวกเราไม่เคยย่อท้อและยืนหยัดที่จะปกป้องแผ่นดินเกิดและทรัพยากรของประชาชนต่อไป เราต่อสู้มาอย่างต่อเนื่อง ไครียะห์และลูกหลานของพวกเราขึ้นกรุงเทพเป็นรุ่นที่ 3 แล้ว ซึ่งเป็นการต่อสู้อย่างยาวนานจากรุ่นสู่รุ่นสะท้อนให้เห็นว่าทุกรัฐบาลเป็นตัวทำลายชุมชนและสิ่งแวดล้อม เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มทุนและพวกพ้องทั้งสิ้น
ไครียะห์ เดินทางไปกรุงเทพ เมืองที่รวมศูนย์อำนาจ ออกนโยบายผลักดันโครงการนิคมอุตสาหกรรมมลพิษ เพื่อทวงสัญญาที่รัฐบาลให้สัญญากับประชาชนคนจะนะว่าจะเริ่มต้นฟังเสียงประชาชนฟังข้อมูลและเหตุผลของพี่น้อง โดยก่อนหน้านี้ได้มีการทำ MOU กับตัวแทนรัฐบาล แต่รัฐบาลกลับโกหก โดยมีการเดินหน้าโครงการต่อ ไครียะห์ จึงอาสาไปทวงคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลให้กับชุมชนจะนะแต่ก็ถูกเมินเฉย เธอใช้เวลาไปพูดคุยกับเครือข่ายกลุ่มต่างๆในกรุงเทพ เพื่อเป็นกระบอกเสียงแทนพี่น้องประชาชน ซึ่งเป็นหนทางเดียวที่เธอพอจะทำได้
พวกเราจึงอยากบอกว่าการลุกขึ้นมาส่งเสียง การลุกขึ้นมาใช้สิทธิปกป้องบ้านเกิดเมืองนอน การรวมตัวของเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่นเรามีเจตนารมณ์ที่จะปกป้องทรัพยากร ปกป้องสิ่งแวดล้อม เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่ชุมชนและประชาชนอย่างพวกเราจะรอดพ้นจากวิกฤติเศรษฐกิจ สังคม และโรคระบาด ในครั้งนี้ได้ และไม่ว่ารัฐบาล นายทุน นักการเมืองจะร่วมกันใช้อำนาจและกฎหมายใส่ร้ายป้ายสีพวกเรา พวกเราจะต่อสู้และปกป้องทรัพยากร สิ่งแวดล้อม ชุมชน จนกว่าจะได้สิทธิกำหนดอนาคตของพวกเราเอง
รักแผ่นดินถิ่นเกิด
เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น
5 มกราคม2565
