เมื่อเวลา 11.00 น.วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่สถานีตำรวจภูธรตากใบ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยพลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส นางสาวประอรรัตน์ รัตนพรสมปอง ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร ด่านศุลกากรตากใบ และผู้ที่เกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวจากผลการบูรณาการร่วมกันจับกุมบุหรี่เถื่อนอีกล็อตใหญ่ หลังจากเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่บุกทลายโกดังบุหรี่เถื่อนที่ อ.ตากใบ และสามารถยึดบุหรี่เถื่อนได้จำนวน 110,000 คอตตอน มูลค่ากว่า 80 ล้านบาท
ทั้งนี้ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ในห้วงระหว่างวันที่ 11-20 พฤศจิกายน 2564 ประกอบกับนโยบายและข้อสั่งการของ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และพลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ให้มีการดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามปัญหาภัยแทรกซ้อน สิ่งผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างเข้มข้นและต่อเนื่อง
ซึ่ง พลตำรวจตรี แวสาแม สาและ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า จากผลการปฏิบัติการครั้งสำคัญโดยเมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2564 เวลาประมาณ 10.00 น.เจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่าภายในบ้านเลขที่ 122/6 และบ้านเลขที่ 122/7 ชุมชนท่าแพรก หมู่ที่ 4 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นแหล่งซุกซ่อนบุหรี่ต่างประเทศ จึงได้บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหาร ฉก.นราธิวาส ตำรวจภูธรนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำตากใบ ตชด. 447 ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรตากใบ บังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจสอบบ้านหลังดังกล่าว ผลจากการตรวจสอบ พบบุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ NEX จำนวน 90 ลัง (72,000 ซอง) บุหรี่ยี่ห้อ VESS (เขียว) 16 ลัง (21,000 ซอง) และบุหรี่ยี่ห้อ VESS (แดง) 1 ลัง (500 ซอง) รวมทั้งหมด 93,500 ซอง ซึ่งของกลางทั้งหมดวางไว้บนพื้นภายในห้องนอนบ้านเลขที่ 122/6 และบ้านเลขที่ 122/7 หมู่ที่ 4 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ โดยขณะตรวจค้นนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดตรวจยึดได้ตรวจสอบบุคคลใกล้เคียง ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของบ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรตากใบเพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15/ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า นโยบายของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผอ.รมน.ภาค 4 ซึ่งได้เน้นย้ำเรื่องการสกัดกั้นตามแนวชายแดน พยายามทำทุกวิถีทางในการเพิ่มเติมกำลังในการป้องกันชายแดนให้มากขึ้นรวมทั้งการใช้เครื่องมือยุทโธปกรณ์พิเศษในการเข้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นการกระทำผิดกฎหมายทุกชนิด ป้องกันภัยแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเพื่อตัดวงจรการกระทำผิดให้สิ้นซากต่อไป
ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าวนราธิวาส
