ชาวประมงร่วมอนุรักษ์อ่าวปัตตานี เผาทำลายไอ้โง่ 2 พันชุด

0
1016

วันศุกร์ที่ 5 พฤศจิกายน นายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี เรือเอกธัญญะ ฉุยโรจน์ธรรม ประมงจังหวัดปัตตานี ปลัดอาวุโสอ.หนองจิก รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดปัตตานี รองผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2 หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดปัตตานี ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 9 ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปัตตานี ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประมงทะเลชายฝั่ง ร่วมในพิธีทำลายเครื่องมือประมงผิดกฎหมาย (ลอบพับได้หรือไอ้โง่) ณ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืดปัตตานี ตำบลบางเขา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี พร้อมปล่อยพันธุ์ปลาสลิด จำนวน 5,000 ตัว เพื่อเพิ่มผลผลิตในแหล่งน้ำต่อไป
เรือเอกธัญญะ ฉุยโรจน์ธรรม ประมงจังหวัดปัตตานี กล่าวว่าการปฏิบัติการครั้งนี้ทำตามระเบียบของกรมประมงว่าด้วยการรักษาของกลางซึ่งเป็นเครื่องมือประมงที่ผิดกฏหมาย เครื่องมือชนิดนี้ผิดตามพระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 และ พระราชกำหนดการประมง (ฉบับที่ 2 ) พ.ศ.2560 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) มาตรา 67 ห้ามมิให้ผู้ใดใช้หรือมีไว้ในครอบครองเพื่อใช้ซึ่งเครื่องมือทำการประมง ได้แก่ 1.เครื่องมือโพงพาง รั้วไซมานหรือกั้นชูรั้วไซมาน เครื่องมือลี่ หรือเครื่องมืออื่นที่มีลักษณะและวิธีการคล้ายคลึงกัน 2.เครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ ที่มีช่องทางเข้าของสัตว์น้ำสลับซ้ายขวาอยู่ทางด้านข้างใช้สำหรับดักสัตว์น้ำ 3.เครื่องมืออวนลากที่มีช่องตาอวนก้นถุงเล็กกว่า 5 เซนติเมตร 4.เครื่องมีออวนรุนที่ใช้ติดกับเรือยนต์เว้นแต่เป็นอวนรุนเคย ผู้กระทำผิดต้องระวางโทษ 10,000-100,000 บาทหรือปรับจำนวน 5 เท่าของจำนวนสัตว์น้ำ
“เจ้าหน้าที่ภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเข้มงวด ซึ่งเป็นการกระทำภายใต้กรอบของกฎหมายที่กำหนด โดยศูนย์ป้องกันและปราบปรามประมงทะเลปัตตานี ร่วมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะหน่วยงานสังกัดกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 2, ฝ่ายปกครอง, ทหารชุดเฉพาะกิจ และตำรวจ ออกตรวจตราและควบคุมการทำการประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานีอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งองค์กรประมงท้องถิ่นในจ.ปัตตานี


ในงบประมาณ 2564 ได้ตรวจยึดเครื่องมือลอบพับได้หรือไอ้โง่ จำนวน 1,505 ชุด และได้รับมอบจากสำนักงานทรัพยากรทางทะเลและขายฝั่งที่ 9 จำนวน 253 ชุด รวมทั้งสิ้น 1,758 ชุด การทำลายครั้งนี้เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์ผลการปฏิบัติงานด้านการป้องกันและปราบปรามการทำการประมงผิดกฎหมาย และป้องปรามมิให้ชาวประมงใช้เครื่องมือประมงผิดกฎหมาย เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจของกลุ่มชาวประมงที่ร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรและใช้เครื่องมือทำการประมงที่ถูกกฎหมาย”
“ข้อมูลทางวิชาการพบว่าสัตว์น้ำระยะแรกเริ่มถึงปานกลางจะถูกตัดวงจรชีวิตไปหมดด้วยไอ้โง่ ที่มี 26 ช่อง ยาว 8 เมตรนี้ เข้าแล้วออกไม่ได้ไปจนถึงก้นถุง ตัวเล็กตัวน้อยถูกจับไปหมด เครื่องมือชุดนึงประมาณ 600 บาท มีความผิดในการนำมาใช้ในที่สาธารณะประโยชน์ ขอให้ช่วยหยุดใช้เครื่องมือประมงที่ผิดกฏหมายเพื่อให้ท้องทะเลบ้านเรามีความอุดมสมบูรณ์ ใช้ประโยชน์จากสัตว์น้ำ มีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากกวาดล้างไป ยังพบการใช้เครื่องมือชนิดนี้อยู่ หน่วยงานรัฐใช้วิธีป้องกันคือ ใช้การมีส่วนร่วมขององค์ประมงท้องถิ่น ประชาสัมพันธ์ตามมัสยิด ที่ประชุมกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน การอบรมต่างๆ หากยังมีผู้กระทำผิดอีก ต้องใช้มาตรการตรวจตราจับกุม ถ้าพบผู้ต้องหาก็โดนปรับ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่พบผู้กระทำผิด เมื่อยึดมา หาผู้ต้องหาไม่ได้ภายในหนึ่งเดือน ริบเป็นของกลางมาทำลายปีละครั้ง”
ด้านนายนิติ วิวัฒน์วานิช รองผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี กล่าวว่าปัจจุบันทรัพยากรสัตว์น้ำในทะเลไทยมีแนวโน้มลดลง ซึ่งเป็นผลมาจากการทำการประมงที่เกินศักยภาพการผลิตตามธรรมชาติที่จะทดแทนได้ สาเหตุหนึ่งจากการใช้เครื่องมือทำการประมงที่เป็นการทำลายพันธุ์สัตว์น้ำที่อยู่ในระยะวัยก่อนสีบพันธุ์ เช่น ลอบพับหรือไอ้โง่ เกิดความขัดแย้งกับชาวประมงที่ใช้เครื่องมือประมงถูกกฏหมายในพื้นที่
“หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้อยู่ต่อไปโดยไม่มีมาตรการในการบริหารจัดการทรัพยากรสัตว์น้ำที่ดีพอจะทำให้กิจการประมงของประเทศอยู่ในภาวะวิกฤตและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ภาครัฐจึงจำเป็นต้องมีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดและเข้มงวด เพื่ออนุรักษ์ทรัพยากรให้มีใช้อย่างยั่งยืนซึ่งเป็นการกระทำภายใต้รอบของกฎหมาย การทำลายเครื่องมือลอบพับหรือไอ้โง่ในวันนี้ ยังเป็นการประชาสัมพันธ์และเสริมสร้างให้ชาวประมงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี มีจิตสำนึก ในการฟื้นฟูอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำและปฏิบัติตามกฎหมาย”
นายมักตาร์ สาแม ประธานชมรมประมงพื้นบ้านอ.เมืองปัตตานี บอกว่า ดีใจที่ทางการสามารถจับเครื่องมือประมงผิดกฏหมายที่ทำลายชีวิตสัตว์น้ำก่อนแต่งงาน คือไม่มีโอกาสได้วางไข่ หากเครื่องมือนี้ไม่มีในน่านน้ำของไทยจะเพิ่มจำนวนสัตว์น้ำได้มากขึ้นอย่างแน่นอน รัฐควรทำความเข้าใจกับคนที่ยังใช้เครื่องมือนี้อยู่ว่าให้เลิกใช้ เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวมและประเทศชาติ
ตลอดระยะ 10 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน มีการแย่งชิงด้านทรัพยากรสัตว์น้ำ เกิดการทำประมงลากข้างขนาดเล็ก การทำประมงเรือรุนขนาดเล็ก และการทำประมงด้วยลอบพับได้หรือไอ้โง่ แม้จะมีกฎหมายห้าม มีการกำหนดโทษ ระบุขนาดโทษอย่างชัดเจน แต่ยังคงมีการดำเนินการใช้เครื่องมือนี้อย่างต่อเนื่องและแนวโน้มจะมากยิ่งขึ้น ซึ่งไอ้โง่เป็นเครื่องมือที่มีอนุภาพทำลายล้างสูงและส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิต และวิถีประมงพื้นบ้านอวนลอยในอ่าวปัตตานีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้