เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 24 กย. พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 พล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เฉลิมชัย เพชรกาศผกก.สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี นำกำลังชุดสืบสวนสอบสวน และทหารพรานที่ 44 สนธิกำลังเข้าบังคับใช้กฎหมายกับผู้ก่อเหตุรุนแรง ตามหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 2 รายคือ 1. นายอัซมัน หะมะ (เสื้อน้ำเงิน) บ้านเลขที่ 12 ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรีจ.ปัตตานี ซึ่งมีหมายจับ ป.วิอาญา จำนวน 1 หมาย และ 2. นายอาฮามัด แลแร (เสื้อเหลือง)บ้านเลขที่ 76 ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี มีหมายจับ ป.วิอาญาจำนวน 1 หมาย
โดยทั้ง 2 เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ ป.วิอาญา กระทำความผิดฐานร่วมกันสะสมกำลังพล จัดหาหรือรวบรวมทรัพย์สิน ให้หรือรับการฝึกการก่อการร้าย ตระเตรียมการอื่นใดหรือสมคบกัน เพื่อก่อการร้าย หรือกระทำความผิดใดๆ อันเป็นส่วนของแผนการเพื่อก่อการร้าย, ร่วมกันเป็นอั้งยี่กัน
สำหรับการจับกุมครั้งนี้สืบทราบว่า ทั้ง 2 รายได้เข้ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่ ม.5 ต.มะนังดาลำ และ ม.10 ต.เตราะบอน อ.สายบุรี จ.ปัตตานี จึงเข้าทำการตรวจสอบในพื้นที่ดังกล่าว และพบบุคคลเป้าหมาย หลบซ่อน อยู่ภายในบ้านหลังหนึ่งจึงได้เข้าแสดงตัว พร้อมแสดงหมายจับ ป.วิอาญา ให้บุคคลภายในบ้านได้รับทราบหลักฐานและขั้นตอนในการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ เพื่อบังคับใช้กฎหมาย พร้อมเชิญ ผู้นำท้องที่ ผู้นำศาสนา เข้าทำความเข้าใจกับญาติเพื่อให้เชิญตัวผู้ต้องหาเข้ามามอบตัว
ต่อมาบุคคลเป้าหมายทั้ง 2 รายได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และออกมาพบเจ้าหน้าที่โดยไม่มีการเข้าไปควบคุมตัวภายในบ้านแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงแสดงหมายจับ ป.วิอาญา ให้ทราบ พร้อมทั้งให้เจ้าของบ้านนำเข้าไปตรวจสอบภายในบ้าน ซึ่งไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด จึงได้ควบคุมตัวบุคคลทั้ง 2 ราย ไปลงบันทึกการจับกุมที่สถานีตำรวจภูธรสายบุรีพร้อมเชิญญาติของทั้ง 2 ราย ร่วมเดินทางไปเป็นพยานในการเข้าบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ก่อนเข้าสู่กระบวนการตามกฎหมายต่อไป
พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เน้นย้ำการเข้าบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ให้ดำเนินการตามกฎหมายโดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญเพื่อไม่ให้เกิดการสูญเสีย และได้เน้นการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ไม่ต้องการใช้ความรุนแรง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่น และความมั่นใจในมาตรการการควบคุมพื้นที่และบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่ ที่ได้ดำเนินการติดตามในทุกคดีที่เกิดขึ้น ด้วยความระมัดระวังและใช้มาตรการจากเบาไปหาหนัก โดยการใช้อาวุธของเจ้าหน้าที่จะใช้เป็นขั้นตอนสุดท้าย เพื่อป้องกัน ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน รวมทั้งป้องกันตนเองหากคนร้ายมีการต่อสู้เท่านั้น
ขณะที่ความคืบหน้า เหตุคนร้ายปาระเบิดใส่ฐานปฏิบัติการณ์ชุดคุ้มครองตำบลน้ำบ่อตั้งอยู่ริมถนนสายปะนาเระ–สายบุรี ม.2 ต.บ้านน้ำบ่อ อ.ปะนาเระ จ.ปัตตานี เป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต 1 นาย บาดเจ็บ 1 นาย เหตุเกิดเมื่อวันที่ 22 กย.ที่ผ่านมาพล.ต.ต.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ให้ชุดสืบสวนสอบสวนเร่งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดที่อยู่ภายในฐาน ซึ่งปรากฏว่าเครื่องบันทึกได้เกิดชำรุดมาหลายวันทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ จึงได้ให้ทำการตรวจสอบจากกล้องที่อยู่บริเวณริมถนนและจากร้านค้าในพื้นที่ตามเส้นทางเข้าออกฐาน นอกจากนี้ได้มีการตรวจสอบบุคคลภายในฐานทุกคนว่ามีพิรุธอย่างไร และจากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่ อส.บางรายพบว่ามีเบอร์โทรศัพท์ที่ระบุหมายเลขของบุคคลต้องสงสัยที่เกี่ยวข้องกับเหตุความรุนแรง จึงได้เชิญเจ้าหน้าที่ทุกคนไปทำการตรวจดีเอ็นเอเพื่อหาความเชื่อมโยงกับหลักฐานที่พบในที่เกิดเหตุ แต่ยังไม่ได้ดำเนินคดีเพียงให้อยู่ในควบคุมของผู้บังคับบัญชาและให้รอผลตรวจออกมายืนยันอีกครั้ง หากผลยืนยันว่าเกียวข้องก็จะดำเนินการจับกุมเพื่อดำเนินคดีต่อไป
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี