ปัตตานี ดับรายวันเพิ่มอีก 4 ราย ผู้ป่วยรุนแรงเพิ่มหลักร้อย เตียงล้น นอนรอเตียงอีกมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานวันที่ 24 กค. 2564 สถาการณ์โควิด19 ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี 2 วันที่ผ่านมา ตัวเลขของผู้ติดเชื้อลดลง ล่าสุดเมิ่อคืนนี้อยู่ที่ร้อยกว่ารายติดต่อกัน แต่ยังไม่น่าไว้วางใจ และจังหวัดยังคงเป็นพื้นที่สีแดงเข้ม โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อ ล่าสุดวันที่ 23 กค. มีจำนวน 149 คน ยอดสะสม7,216 คน รักษาหายแล้ว 4,211 คน ซึ่งวันนี้มีผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มอีก 4 ราย ทำให้มียอดสะสมเสียชีวิต 85 รายแล้ว และยังอยู่ระหว่างรอผลตรวจอีกหลายพันคน
ทั้งนี้ อ.เมือง พบตัวเลขผู้ติดเชื้อสูงที่สุดกว่า มีจำนวนสะสม 2,317 คน และที่น่าเป็นห่วงคือ อ.หนองจิกที่พบผู้ติดเชื้อมากทุกวัน เนื่องจากหมู่บ้านที่ถูกสั่งปิดไป กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ดูแล ทำให้ประชาชนออกมาข้างนอกไม่จำกัดพื้นที่กันเป็นจำนวนมากทำให้ควบคุมไม่ได้
นอกจากนี้ที่น่าเป็นห่วงคือ ผู้เสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นทุกวัน เนื่องจากโรงพยาบาลปัตตานี ขณะนี้มีผู้ป่วยที่อาการรุนแรงจริงๆ ประมาน 40 คน ซึ่งเชื้อได้ลงที่ปอดแล้ว และต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ และเครื่องไฮโฟว์ ส่วนผู้ป่วยอีกประมาน 130 คน ก็อยู่ในขั้นน่าเป็นห่วง ซึ่งอยู่ในกลุ่มสีเหลือง บางรายเชื้อลงปอด โดยกลุ่มนี้แพทย์ต้องดูแลอย่างใกล้ชิดเช่นกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยรุนแรง อีกทั้งทุกวันจะมีผู้ป่วยรุนแรงเข้ามารักษาตัวเป็นจำนวนมาก ส่งผลให้ห้องที่จะรองรับผู้ป่วยรุนแรงใน โรงพยาบาลปัตตานีไม่เพียงพอจริงๆ และที่ยังนอนรอเตียงที่บ้านมีอีกมาก ที่แชรกันทางโซเชียล
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าด้วยว่าอุปกรณ์ทางการแพทย์ในจังหวัดปัตตานียังไม่เพียงพอโดยเฉพาะถังอ้อกซิเจน และอื่นๆ ล่าสุดมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยให้มูลนิธิร่วมบำเพ็ญการกุศล ท่งเต็กเซี่ยงตึ๊ง เป็นผู้มอบให้แก่โรงพยาบาลปัตตานี เพื่อใช้ในสถานการร์โควิด19 ซึ่งได้สนับสนุนอุปกรณ์ทางการแพทย์ ประกอบไปด้วย หน้ากาก N95 จำนวน 2,100 ชิ้น, ชุดกาวน์พลาสติก จำนวน 2,000 ชุด, ถุงพลาสติกหุ้มขา จำนวน 100 ชิ้น, ชุด PPE จำนวน 550 ชุด, ถุงคลุมผม จำนวน 2,000 ใบ และชุดกาวน์ จำนวน 1,000 ชุด ซึ่งรวมมูลค่ากว่า 236,000 บาท
ในส่วนพื้นที่ม.4 ต.ตุยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานี องค์กรท้องถิ่นในพื้นที่พร้อมด้วย รพ.หนองจิก ฝ่ายปกครอง ได้ปฏิบัติการเชิงรุกเข้าในพื้นที่และทำการ swab(ตรวจเชื้อ) แต่ละบ้านใน2-3 วันที่ผ่านมา ปรากฏว่าหลังswab(ตรวจเชื้อ) นำไปตรวจสอบ พบว่ามีผู้ติดโควิท19 รวมแล้ว ประมาณ 80 คนใน1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ทำให้ทางอำเภอและโรงพยาบาลจำเป็นต้องปิดหมู่บ้านดังกล่าว แต่การปิดหมู่บ้านไม่มีมาตรการณ์ที่ชัดเจนในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยา และการควบคุมพื้นที่ เพื่อไม่ให้ผู้ติดเชื้อแพร่ระบาด โดยให้ผู้ติดเชื้อพักในบ้าน แต่ก็ไม่มีจนท. มาควบคุมดูแล ทำให้ผู้ติดเชื้อได้ออกไป เพ่นพ่านและขับรถออกไปทั่วโดยไม่มีใครควบคุมตักเตือน
นอกจากนี้ ยังมีอีกหลายหมู่บ้าน ใน อ.หนองจิก บางหมู่บ้าน แผงเหล็กที่กั้น ก็ตั้งสะเปะสะปะ บางแผ่นก็ล้ม และอีกหมู่บ้านหนึ่ง มีการปิดหมู่บ้าน แต่ไร้ จนท. ควบคุม รถจักรยานเข้าออกเป็นว่าเล่น สวมแมสก์บ้าง ไม่สวมบ้าง ใส่ใต้คางบ้าง คาดว่าอีกหลายพื้นที่ก็เป็นลักษณะแบบนี้ ซึ่งมาตรการที่ทางจังหวัดสั่งปิดหมู่บ้าน ดูเหมือนว่าจะล้มเหลว และไม่จริงจัง หรือเข้มงวด ซึ่งอาจจะทำให้เชื้อขยายเพิ่มขึ้นไปอีก
ส่วนทางด้านโรงพยาบาลหนองจิกยังไม่มีในการดูแล มาตรการณ์ที่ชัดเจน ทำให้การแพร่กระจายของผู้ที่ติดโควิดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ล่าสุดมีครอบครัวรายหนึ่ง ลูกสาวได้เผยแพร่ข้อมูลทางเพสบุ๊กว่า พ่อมีผลเป็นบวก หมอนัดให้ไปเอกซเรย์ ที่ รพ. หนองจิก โดยมีรถ รพ. มารับ ซึ่งตนกับพ่อ รอที่ รพ.หนองจิก กว่า 8 ชม. แต่ก็ไร้วี่แววของหมอและแพทย์ สุดท้ายเจ้าหน้าที่บอกให้กลับไปกักตัวที่ศูนย์กักตัวที่เดิมก่อน เพราะเตียงไม่มี ทำให้ครอบครัวรายนี้ต่างไม่พอใจกับการทำงานที่ปล่อยผู้ป่วยรอนาน จึงโพสลงเพสบุ๊ก ทำให้มีคนกดไลน์ กดแชร์เป็นจำนวนมาก
ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี
