ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 2 กค. สถานการณ์โควิดในพื้นที่จังหวัดปัตตานี เริ่มควบคุมไม่ได้ หลังพบยอดผู้ติดเชื้อวันที่ 1 กค . มีจำนวนมากถึง 237 คน มีผู้ป่วยยืนยันสะสม2,593 คน รักษาหายแล้ว 1,160 คน และมียอดผู้เสียชีวิตสะสม 12 คน ส่วนอำเภอเมืองปัตตานีพบยอดผู้ติดเชื้อสะสม 875 คน ซึ่งมากกว่าอำเภออื่นๆ อีกทั้งยังมีกลุ่มเสี่ยงทยอยเข้ามากักตัว และรอผลเชื้อ อีก 2,000 กว่า คน
โดยขณะนี้ ผู้ป่วยและกลุ่มเสี่ยงก็จะทยอยเพิ่มมากยิ่งขึ้น ซึ่งกลุ่มเหล่านี้เป็นกลุ่มติดเชื้อสัมผัสจากคลัสเตอร์เดิมๆ เช่น มัรกัสยะลา โรงงานรอยัลฟู้ด โรงงานแพอรุณ โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารทะเล ในเขตอุตสหกรรมปัตตานี ซึ่งทั้งหมดเป็นพนักงานของโรงงานต่าง ๆ ได้ขยายในครอบครัวและชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่พบว่ากลุ่มเหล่ามักจะไม่ปฏิบัติตามมาตรการ ประกอบกับสถานที่กักตัวไม่เพียงพอ ต้องกักตัวที่บ้านและที่โรงงานจัดแทนจึงเป็นจุดหลวมที่ทำให้เป็นสาเหตุหนึ่งที่ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะยังคงผู้มีติดเชื้อเป็นจำนวนมาก เพราะยังมีกลุ่มเสี่ยงที่รอผลตรวจเชื้อ และกลุ่มเสี่ยงรายใหม่ที่พึ่งเข้ามา ทั้งหมด 2,000 กว่าคน
ขณะที่ นักศึกษาพยาบาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานีที่พึ่งจบมาใหม่ มาอาสามาช่วยให้กับโรงพยาบาลปัตตานีเป็นเวลา 3 เดือน หลังพบว่าบุคลากรโรงพยาบาลปัตตานี เริ่มขาดแคลน และไม่เพียงพอ เนื่องจากบุคลากรทางการแพทย์หลายคนต้องกักตัว และติดเชื้อกันเป็นจำนวนมาก เพราะผู้ป่วยยังปกปิดทามไลน์
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เนื่องจากมีผู้ติดเชื้อเพิ่มอย่างต่อเนื่องในอำเภอต่างๆ ซึ่งขณะนี้มีการปิดสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่ระบาดเชื้อโควิดในจังหวัดปัตตานีแล้ว 17 หมู่บ้าน ใน4 อำเภอ ประกอบด้วย อำเภอเมือง อ.แม่ลาน อ.กะพ้อ และ อ.ไม้แก่น ทำให้บรรยากาศในหมู่บ้านเป็นไปอย่างเงียบเหงา ซึ่งหลายคนยังคงกังวลผลตรวจว่าจะติดเชื้อหรือไม่ทั้งนี้จะยังคงมีอีกหลายหมู่บ้านที่ทางจังหวัดมีแผนจะปิดอีก.
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี