นักลงทุนจีนร่วมกับผู้ประกอบการชาวไทย จัดตั้งโรงงานแปรรูปทุเรียนใต้ ทุ่ม 700 ล้าน ใหญ่ที่สุดในประเทศด้าน ศอ.บต. หนุนเกษตรกรในพื้นที่ ทำการเกษตรแบบผสมผสานเสริมเพิ่มอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงงานแปรรูปทุเรียน ริมถนนเพชรเกษม ตำบลปากบาง อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ร่วมพบปะกับพี่น้องเกษตรกรทุเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมนำสื่อมวลชนเยี่ยมชมความก้าวหน้าการก่อสร้างโรงงานแปรรูปทุเรียน บริษัท ม่าน กู่ หวาง ฟู๊ด จำกัด ซึ่งนายเซียวเย่าเหิง ผู้จัดการใหญ่ นักลงทุนชาวจีนได้ร่วมกับ นายประเสริฐ คณานุรักษ์ ผู้บริหารบริษัท จัดตั้งโรงงานดังกล่าวในพื้นที่ อำเภอเทพา จังหวัดสงขลาเป็นประตูรับเขตชายแดนใต้4จังหวัดเพื่อเป็นจุดศุนย์กลางส่งออกทุเรียนแปรรูปไปยังประเทศจีน และอาเซียนซึ่งขณะนี้ คืบหน้าไปกว่า60%
.ทั้งนี้ บริษัท ม่าน กู่ หวาง ฟู๊ด จำกัดจะเป็นบริษัท ผลไม้แช่แห้งแบบเยือกแข็ง Freeze dry ของนักลงทุนชาวจีนจากเมืองคุณหมิงที่ชื่นชอบและหลงใหลในรสชาติทุกเรียนจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเห็นโอกาสในการลงทุนเพราะทุเรียนเป็นผลไม้ที่ชื่นชอบของชาวจีนสูงมาก โดยเฉพาะทุเรียนที่มาจากเมืองไทยซึ่งปัจจุบันคาดการณ์ว่ามีจำนวนทุเรียนเพียง 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จากจำนวนความต้องการของผู้บริโภคทั้งหมดในประเทศจีนจึงได้วางแผนการลงทุนร่วมกับนักลงทุนชาวไทย ซึ่งเริ่มดำเนินการก่อสร้างโรงงานตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา ใช้เงินลงทุนระยะแรกกว่า 700 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นโรงงาน Freeze dry ที่มีขนาดใหญ่ 1 ใน 3 ของประเทศ พร้อมเปิดโรงงานทำการในวันที่ 15 กรกฎาคม 2562 นี้
โดยคาดว่าจะสามารถรองรับผลผลิตทุเรียนได้ปีละ 12 ล้านกิโลกรัม และเพิ่มขึ้นเป็น 20 ล้านกิโลกรัม ในปี 2563 ซึ่งสามารถรองรับทุเรียน 1 ใน 3 ของผลผลิตในพื้นที่ ทำให้เกิดการจ้างงานกว่า 1,200 คน
พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าวว่า โรงงานนี่จะเป็นโรงงานที่ใหญ่ที่สุดแห่งแรกเนื่องจากเราเปิดทางสู่สามเหลี่ยมเศรษฐกิจคืออ.หนอกจิกจ.ปัตตานี จ.นราธิวาสอ.สุไหงโกลกและเบตงจ.ยะลา ที่นี่จะเป็นประตูเปิดสู่ 3 จังหวัด เป็นการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจและโรงงานที่ตั้งขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์เศรษฐกิจฐานรากของจังหวัดชายแดนภาคใต้ซึ่งประชาชนในพื้นที่ส่วนใหญ่ยึดอาชีพทำการเกษตรวิถีเชิงเดี่ยวเป็นหลัก วันนี้เป็นการปรับทิศให้ทุกส่วนราชการมาช่วยกัน และปรับวิธีคิดเพิ่มเป็นเกษตรผสมผสานตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง ส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกอย่างอื่นอีกในหลายๆอำเภอเช่นในบันนังสตา เบตง แม่ลานอโคกโพธิ์ และพื้นที่นาร้างต่างๆ หันมาปลูกพืชเช่น กาแฟ ไผ่ มะพร้าว ทุเรียน พืชเศรษฐกิจชนิดอื่นๆ ซึ่งที่ผ่านมาราคาผลผลิตขึ้นอยู่กับพ่อค้าคนกลางหรือปริมาณความต้องการในแต่ละเวลาไม่สามารถคำนวณคาดการณ์ได้เลย ดังนั้นการที่มีโรงงานแปรรูปเข้ามาในพื้นที่ครั้งนี้จะตอบโจทย์ได้ในหลายมิติไม่ว่าจะเป็นการเกิดการจ้างงาน รวมทั้งสามารถเก็บทุเรียนได้นานและสามารถระบายเข้าสู่ท้องตลาดได้ตามความต้องการ เชื่อมั่นว่าโรงงานแห่งนี้จะสร้างความเปลี่ยนแปลงในจังหวัดชายแดนภาคใต้ได้
นายเซียวเย่าเหิง ผู้จัดการบริษัท ม่าน กู่ หวาง ฟู๊ด จำกัดกล่าวว่าในเรื่องราคาไม่น่าห่วง เพราะทุกวันนี้ ทางประเทศจีนทุเรียนยังไม่เพียงพอ และที่ออกไปนั้นมีแค่ 4ถึง5%เท่านั้นเอง ยังต้องการอีกมากไม่พอขาย และสำหรับแปรรูปแล้ว ปีที่แล้ว 2หมื่นตันก้ยังไม่เพียงพอ ปริมาณความต้องการยังเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว มีเมืองหลักๆที่ต้องการเช่น กวางโจว จางหนาน วันนึง200ตู้ ยังไม่พอขาย นอกจากนี้ยังที่ตลาดอื่นๆอีก ซึ่งชาวจีนนิยมบริโภคขณะนี้ยังมีเพียง5%เท่านั้น ถ้าผลผลิตที่เมืองไทยได้มากขึ้น เพิ่มขึ้น 20-30%ได้ยิ่งดี ขณะนี้ยังปลูกได้อีกมาก แน่นอนต้องขยายตลาดได้มากขึ้นอีก ทุเรียนยะลา อร่อยมาก และคงต้องแนะนำเรื่องคุณภาพ และให้เป็นแบบออแกนิค ซึ่งชาวจีนจะนิยมบริโภคอย่างมาก
โรงงานแปรรูปทุเรียน ในพื้นที่อำเภอเทพาถือเป็นการตอบโจทย์ ตามนโยบายของ ศอ.บต. ในฐานะศูนย์กลางในการขับเคลื่อนการพัฒนาผลักดันโครงการเมืองต้นแบบ “สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน” ซึ่งเป็นโครการเพื่อเชื่อมโยงไปสู่การพัฒนาในระดับเศรษฐกิจฐานราก เช่น พืขเกษตร การแปรรูป ในระดับครัวเรือน ระดับชุมชน และเชื่อมโยงไปสู่การค้าการลงทุน ในรูปแบบอุตสาหกรรมเกษตรแปรรูปผสมผสาน เพื่อส่งเสริมความเข้มแข็ง ให้มีอาชีพ มีรายได้ที่มั่นคงต่อไป
ทีมข่าว@ชายแดนใต้ รายงาน