คดีตำรวจอุ้มเรียกค่าไถ่ตำรวจปัตตานี แฉ4 นายโฆษกฯแถลงข้อหา”ส่อกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง”
พนักงานสอบสวนเร่งรวบรวมพยานหลักฐานในคดีตำรวจอุ้มตำรวจไปเรียกค่าไถ่ ซึ่งอาจต้องใช้เวลาอีกหลายวัน เนื่องจากต้องประสานขอความร่วมมือจากหลายฝ่ายก่อนยื่นเรื่องให้ ปปช.ดำเนินการในขณะตำรวจ3 นายซึ่งถูกสั่งย้ายจากสังกัดเดิมกำลังอยู่ระหว่างการเรียกตัวมาสอบสวนข้อเท็จจริง
ความคืบหน้าวงการสีกากี คดีตำรวจอุ้มตำรวจไปเรียกค่าไถ่เป็นเงินถึง 5 แสนบาท ซึ่งผู้เสียหายคือ ส.ต.ท.สัญลักษณ์ จันทร์ดำ ผบ.หมู่(ป) สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานีได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสภ.หาดใหญ่ จ.สงขลาไว้แล้วเพื่อดำเนินคดีอย่างถึงที่สุดซึ่งทางพนักงานสอบสวนเตรียมยื่นเรื่องให้ปปช.ดำเนินการเนื่องจากเป็นเจ้าพนักงานในขณะที่ตำรวจ3 นาย คือ ดาบตำรวจธีรยุทธ สุวรรณรัตน์ ดาบตำราจสิรภพ หมื่นหนู และดาบตำรวจพิรชัช หวั้นเส้ง ที่ถูกกล่าวหา ทางต้นสังกัดตำรวจภูธรภาค 9 ได้สั่งย้ายและอยู่ระหว่างการดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริง
ล่าสุดในส่วนของความคืบหน้าการสอบสวนทาง ร.ต.อ.เดชา วัตมากคำ พนักงานสอบสวนในคดีนี้กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อยื่นเรื่องให้กับ ปปช.ให้เร็วที่สุดภายในระยะเวลา30 วันซึ่งมีทั้งการตรวจสอบสถานะของตำรวจทั้ง 3 นายไปยังต้นสังกัด การตรวจสอบบัญชีการโอนเงิน การตรวจสอบเซฟเฮ้าว่ามีใครเป็นผู้เช่า และการเรียกพยานที่อยู่ในเหตุการณ์มาสอบสวนเพิ่มเติมซึ่งมีทั้งที่พร้อมจะให้ความร่วมมือและไม่ติดใจเอาความซึ่งขั้นตอนการรวบรวมพยานหลักฐานนั้นต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งเนื่องจากต้องประสานขอความร่วมมือไปยังหลายฝ่ายเพื่อให้ได้เอกสารและพยานที่ชัดเจนก่อนที่จะสรุปเรื่องทั้งส่งไปให้ปปช.ดำเนินการต่อไป
ส่วนกระบวนการสอบสวนทางวินัยนั้น ขณะนี้ทางกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 กำลังอยู่ระหว่างการเรียกตัวตำรวจ 3 นายมาสอบสวนข้อเท็จจริง ส่วนจะมีตำรวจเกี่ยวข้องเพิ่มอีกหรือไม่นั้นต้องรอผลการสอบสวนทั้ง3 นายว่าจะให้การปฏิเสธหรือยอมรับและซัดทอดไปยังคนอื่นอีกหรือไม่
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันนี้ (13 พ.ค.) ทางทีมโฆษกตำรวจภูธรภาค 9 ได้ออกใบแถลงความคืบหน้าของคดีนี้ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัดภูธรภาค9 ถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังเรียกรับผลประโยชน์จากผู้อื่นเหตุเกิดภายในซอย18 ถนนรัตนอุทิศต.หาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลาเมื่อวันที่26 มีนาคม ที่ผ่านมา
ซึ่งการดำเนินการคดีนี้แยกเป็น2 ประเด็นคือ การดำเนินการคดีอาญากับการดำเนินการทางวินัยโดยในส่วนของการดำเนินคดีอาญาได้ดำเนินคดีอาญาข้าราชการตำรวจจำนวน3 นายพลเรือน1 คนในความผิดฐานหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพตาม ป.อาญา มาตรา310 และร่วมกันเรียกค่าไถ่ตาม ป.อาญา มาตรา313 ตามคดีอาญาที่1531/2562 ลง11 พฤษภาคม62 ของ สภ.หาดใหญ่
ส่วนการดำเนินการทางวินัยได้ดำเนินการทางวินัยอย่างร้ายแรงกับข้าราชการตำรวจจำนวน 4 นายเป็นข้าราชการตำรวจกองบังคับการสืบสวนภาค 9 จำนวน 3 นาย เป็นข้าราชการตำรวจ สภ.คอหงส์จำนวน 1 นายในความผิดฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรงตาม พ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2547 มาตรา79(5)
โดยคดีนี้มีตำรวจที่เกี่ยวข้องขณะนี้จำนวน 4 นายที่โดนทั้งคดีอาญาและทางวินัย3 นายคือ ดาบตำรวจธีรยุทธ สุวรรณรัตน์, ดาบตำราจสิรภพ หมื่นหนู,และ ดาบตำรวจพิรชัช หวั้นเส้งเนื่องจากผู้เสียหายได้เข้าแจ้งความไว้แล้ว ส่วนอีก 1 นายที่เป็นตำรวจ สภ.คอหงส์ยังถูกดำเนินการทางวินัยซึ่งหากผู้เสียหายแจ้งความก็จะถูกดำเนินคดีอาญาด้วยเช่นกันเดียวกัน.
ทีมข่าว@ชายแดนใต้/ รายงาน