พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเดินทางมาเป็นประธานเปิดงานมหกรรมวิชาการและวิชาชีพจังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2562 “4 ปีการศึกษา พัฒนาชายแดนใต้” ซึ่งจัดขึ้นโดยศูนย์ประสานงานและบริหารการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้
ทั้งนี้งานมหกรรมวิชาการและวิชาชีพจังหวัดชายแดนภาคใต้ 4 ปีการศึกษาพัฒนาชายแดนภาคใต้ เพื่อให้สถานศึกษาพัฒนากิจกรรมเสริมหลักสูตรและการจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมให้ผู้เรียนมีทักษะ และกล้าแสดงออกตามความสามารถและความถนัดของตนเอง โดยมีกิจกรรมการแข่งขันเสริมหลักสูตร จำนวน 23 กิจกรรม และมีกิจกรรมการแข่งขันทักษะทางวิชาชีพและทักษะพื้นฐาน จำนวน 5 กิจกรรม รวมทั้งการจัดนิทรรศการแสดงผลงานของหน่วยงานทางการศึกษา จำนวน 36 หน่วยงาน
นอกจากนี้ยังได้มีการมอบเกียรติบัตรให้แก่นักเรียนและสถานศึกษาที่มีผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน โอเน็ต โดยมีนักเรียนที่สอบได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน จำนวน 123 คน และนักเรียนที่มีผลการทดสอบระดับชาติด้านอิสลามศึกษา ไอเน็ต ซึ่งสอบได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน จำนวน 629 คน เพื่อยกย่องและเชิดชูเกียรตินักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสุดจากการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน โอเน็ต และการทดสอบระดับชาติด้านอิสลามศึกษา โดยได้คะแนนเต็ม 100 คะแนน จำนวน 2 รายวิชา และมอบโล่ประกาศเกียรติคุณแก่นักเรียนที่มีผลสัมฤทธิ์สูงสุดจากการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน โอเน็ต จำนวน 3 คน เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในการศึกษาในระดับต่อไป
พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้โอวาท แสดงความชื่นชมยินดีกับผู้ที่ได้รับโล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และรางวัล ต่างๆ และกล่าวว่า ความรู้ความสามารถที่นักเรียนทุกคนได้รับเป็นภาพสะท้อนความพยายามและความเอาใจใส่ของหน่วยงานทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนและพัฒนาคุณภาพการศึกษา ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ทุกวันนี้ นักเรียนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้มีผลสัมฤทธิ์ทางการศึกษาเพิ่มมากขึ้นเป็นลำดับ แสดงให้เห็นการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วนอย่างจริงจัง ตลอดระยะเวลาเกือบ 5 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลโดยการนำของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้มีการกำหนดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และมีการปฏิรูปประเทศในหลายๆด้าน ซึ่งงานด้านการศึกษาก็เป็นงานสำคัญด้านหนึ่ง โดยการศึกษาในยุค 4.0 นั้น รัฐบาลได้มุ่งเน้นให้เยาวชนได้พัฒนาตนเองสู่การมีอาชีพและมีงานทำตามความถนัดและความต้องการของตนเอง โดยสอดคล้องกับความต้องการของตลาดงาน อย่างไรก็ตาม ในการที่จะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ ส่งผลให้ชุมชนและประเทศชาติมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนนั้น ต้องอาศัยกลไกที่เสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในทุกระดับตามกลไกประชารัฐ และจากการรายงานและการติดตามกำกับดูแลการบริหารงานด้านการศึกษาในระดับประเทศจนถึงระดับพื้นที่ พบว่า การศึกษาไทย ถือได้ว่ามีการพัฒนาอย่างเป็นระบบและตอบสนองต่อความต้องการของประเทศมากยิ่งขึ้น โดยกระทรวงศึกษาธิการจัดทำแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี ขับเคลื่อนแผนบูรณาการด้านการศึกษาระดับภาค (ภาคใต้ชายแดน) รวมทั้งแผนการพัฒนาการศึกษาในระดับจังหวัด รองรับอย่างเป็นระบบ
การพัฒนาการศึกษาที่ตอบสนองต่อบริบทในพื้นที่ของจังหวัดชายแดนภาคใต้ปรากฏผลสัมฤทธิ์เชิงประจักษ์แล้วอย่างมากมาย อาทิ โครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้ , โครงการโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้, โครงการยกระดับการใช้ภาษาไทย, โครงการในการแก้ไขปัญหาประชากรวัยเรียนที่อยู่นอกระบบการศึกษากลับเข้าสู่ระบบการศึกษาของ กศน.,
ซึ่งได้รับการชื่นชมจากองค์การยูเนสโก (UNESCO), โครงการ 1 ครูอาสา กศน. ต่อสถานศึกษาปอเนาะ, ชุมชนต้นแบบตามโครงการไทยนิยมยั่งยืน, หลักสูตรอิสลามศึกษาตอนต้น, การจัดตั้งศูนย์ประสานงานการผลิตและพัฒนากำลังคนอาชีวศึกษา, การจัดการอาชีวศึกษาเพื่ออาชีพและการมีงานทำ ฯลฯ
และก่อนพิธีมอบโล่รางวัล รองนายกรัฐมนตรีได้กล่าวให้ทุกภาคส่วนได้น้อมนำพระบรมราโชบายด้านการศึกษาของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 10 ที่มุ่งสร้างพื้นฐานให้แก่ผู้เรียน 4 ด้าน
คือ 1.มีทัศนคติที่ถูกต้องต่อบ้านเมือง 2.มีพื้นฐานชีวิตที่มั่นคง-มีคุณธรรม 3.มีงานทำ-มีอาชีพ และ
4.เป็นพลเมืองดี
ต่อจากนั้นได้ทำพิธีการมอบโล่ประกาศเกียรติคุณ เกียรติบัตร และรางวัลแก่นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับรางวัลทุกประเภท
