ปัตตานีสมรภูมิแห่งศักดิ์ศรี​ มหาเอเซียบูรพา#​4​ หลั่งเลือด​!! ​

0
1876

โค้งที่6​ เปิดฉาก​รบเต็มตัว

พอ 03.00 น.คืนนั้น ผู้บังคับกองพันก็ได้รับโทรศัพท์จากนาวาเอกหลวงสุนาวินวิวัฒน์

(กิมเหลียง สุนาวินวิวัฒน์) ข้าหลวงประจำจังหวัดปัตตานี แจ้งว่าญี่ปุ่นได้ยกพลขึ้นบกที่ปากน้ำปัตตานี บริเวณสถานกักกันปศุสัตว์จังหวัด ผู้บังคับกองพันจึงสั่งการให้ร้อยตรีอุดม โสมะเกษตริน ผู้บังคับหมวดกองร้อยอาวุธหนัก นำกำลังที่เตรียมพร้อมอยู่ 1 หมวดกับทหารกองรักษาการณ์อีกประมาณ 20 คน เอารถบรรทุกปืนกลหนักไปต่อต้านญี่ปุ่นไว้ก่อน ต่อมาได้สั่งให้ร้อยเอกเจริญ สายวิจิตร ผู้บังคับกองร้อยที่ 1

นำ 1 หมวดปืนกลหนัก และ 1 หมู่ปืนใหญ่ทหารราบ ไปยึดพื้นที่ตำบลโคกกอ กับให้ร้อยตรีลิบ วีรวัฒน์

ผู้บังคับหมวดกองร้อยที่ 2 พร้อมด้วย 1 หมวดปืนกลหนัก 1 หมู่ปืนใหญ่ทหารราบ ไปสมทบกับกองร้อยที่ 1 จากนั้นก็เคลื่อนย้ายส่วนบังคับการกองพันไปตั้งที่อำเภอหนองจิกให้ใกล้สมรภูมิ

ขณะที่ผู้บังคับกองพันเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่อำเภอหนองจิกตามถนนสายปัตตานี-โคกโพธิ์ พอถึงหลักกิโลเมตรที่ 15-16 มีรถบรรทุกปืนใหญ่เสียจอดซ่อมขวางทางอยู่ในความมืด พลขับรถผู้บังคับกองพันขับมาด้วยความเร็ว หักหลบจนรถเสียหลักพุ่งลงไปในคูข้างถนน พันตรีหลวงอิงคยุทธฯ ศีรษะกระแทกกับขอบประตูเป็นแผลฉกรรจ์ แต่เมื่อปฐมพยาบาลบาดแผลแล้วก็ออกเดินทางต่อไปโดยรถปืนใหญ่ที่ซ่อมเสร็จ

โค้งที่7

04.00 น.ขณะที่ทหารของร้อยตรีอุดม โสมะเกษตริน เคลื่อนไปถึงหลักกิโลเมตรที่ 1 หน้าวัดนพวงษ์ ก็พบทหารญี่ปุ่นกระจายกำลังออกมาเป็นแถวจากสถานีกักกันปศุสัตว์ จึงสั่งทหารระดมยิงทันที การปะทะจึงเกิดขึ้นอย่างรุนแรง เมื่อกำลังเสริมของกองร้อยที่ 2 มาถึง พันตรีหลวงอิงคยุทธฯ จึงสั่งให้ปรับรูปขบวนตั้งรับ โดยกำหนดต้านทานตั้งแต่แนวปะทะมาจนถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 3 อาศัยแนวถนนเป็นที่กำบัง จึงทำให้ต้านทานกำลังข้าศึกอย่างได้ผล

06.00 น. ทหารญี่ปุ่น 1 กองพันได้ยกพลขึ้นบกที่ปากน้ำบางตาวา หลังที่ว่าการอำเภอหนองจิกอีกแห่งหนึ่ง เพื่อตีโอบหลังกองทหารไทย เพราะกองหน้าบุกไปไม่ได้ ผู้บังคับกองพันจึงสั่งให้                     ร้อยเอกเจริญ สายวิจิตร นำกำลังไปสกัดกั้นทหารญี่ปุ่นที่ปากน้ำบางตาวา รวมทั้งหมวดปืนใหญ่ทหารราบและทหารสื่อสารในบังคับบัญชาของร้อยตรีวิชิต รักษนาเวศ โดยจัดวางกำลังตามแนวชายป่าทางซ้ายของวัดมุจลินท์ และชายป่าด้านตะวันตกของอำเภอหนองจิก สามารถต้านทานไม่ให้ญี่ปุ่นเข้ายึดอำเภอหนองจิกได้

ที่บริเวณปากน้ำบางนิชา ญี่ปุ่นพยายามจะเข้ายึดค่ายทหารเพื่อไม่ให้ส่งกำลังไปช่วยส่วนหน้าได้ ผู้บังคับกองพันได้จัดทหารที่เหลือและทหารที่ปล่อยออกจากเรือนจำ คอยป้องกันอยู่แล้วทางตะวันตกของเขาบ่อทอง และยังมีทหารบางส่วนของกองร้อยที่ 1 ยึดอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของบ้านโคกกอและบ้านบ่อทอง แต่ยังไม่ทันได้สู้รบกันก็มีคำสั่งให้หยุดยิงเสียก่อน

ส่วนบริเวณปากคลองตาแปด ห่างจากสถานีรถไฟโคกโพธิ์ประมาณ 10 กิโลเมตร เป็นที่หมายที่ญี่ปุ่นจะเข้ายึดเหมือนกัน ผู้บังคับกองพันได้ให้ร้อยตรีกริสน์ แช่มช้อย นำกำลัง 1 หมวดไปรักษาการณ์อยู่ที่สถานีรถไฟโคกโพธิ์ และได้ตรวจค้นขบวนรถไฟที่มาจากยะลา จับชาวญี่ปุ่นแต่งเป็นพลเรือนได้ 2 คนจึงควบคุมตัวไปที่สถานีตำรวจ จุดนี้ก็ยังไม่ทันมีการสู้รบ

ภาพจากinternet

โค้งที่8

การรบที่นับว่ารุนแรงสู้กันแบบประชิดตัวก็คือ สมรภูมิบริเวณหน้าวัดนพวงษ์ ทหารไทยใช้ปืนกลหนักตั้งยิงบนรถบรรทุก ทหารญี่ปุ่นใช้เครื่องยิงลูกระเบิดถูกรถบรรทุกปืนกลหนักไฟไหม้ พลประจำปืนถูกไฟครอกเสียชีวิต กำลังทหารในหมวดร้อยตรีอุดม โสมะเกษตริน เข้ายึดคูน้ำข้างถนนคนละฝั่งกับญี่ปุ่น สาดกระสุนเข้าใส่กัน และยังสั่งให้ทหารติดดาบปลายปืนเตรียมลุยข้ามถนนเข้าตะลุมบอนกับญี่ปุ่น แต่หลังจากหยั่งกำลังข้าศึกแล้ว เห็นว่าญี่ปุ่นมีกำลังเหนือกว่ามากจึงเพียงแต่ยิงยันไว้

ขณะนั้นพันตรีหลวงอิงคยุทธฯ ซึ่งศีรษะบาดเจ็บจากรถตกถนนก็ยังบัญชาการรบอยู่ตลอดระหว่างหมวดปืนกลหนักของร้อยตรีอุดม  โสมะเกษตริน กับหมวดปืนใหญ่ของร้อยตรีเฉลียว สวามิวัสดุ์ จนกระสุนปืนกลของญี่ปุ่นถูกบริเวณโคนขาของผู้บังคับกองพันหลายนัด ล้มอยู่บนถนน ทหารในหมวดปืนใหญ่จึงออกไปนำตัวผู้บังคับกองพันลงมา พันตรีหลวงอิงคยุทธฯ ยังสั่งทหารให้สู้พร้อมกับตะโกนปลุกใจทหารตลอดเวลาขณะที่ถูกหาม ต่อมาร้อยตรีสง่า ศุภลักษณ์ ผู้บังคับหมวดเสนารักษ์ได้นำตัวผู้บังคับกองพันส่งโรงพยาบาลประจำจังหวัด แต่พันตรีหลวงอิงคยุทธฯ ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนร้อยตรีเฉลียว สวามิวัสดุ์ ก็ถูกยิงที่แขนบาดเจ็บสาหัส

สำหรับฝ่ายพลเรือนและยุวชนทหาร ข้าหลวงประจำจังหวัดได้แจ้งให้พันตำรวจตรีเจียร รังคะอุไร  ผู้กำกับการตำรวจภูธร ทราบถึงการยกพลขึ้นบกของญี่ปุ่นเมื่อเวลา 03.00 น.เศษ จึงใช้สถานีตำรวจกองเมืองเป็นศูนย์ป้องกัน โดยผนึกกำลังตำรวจกับยุวชนทหารยึดแนวแม่น้ำปัตตานีต่อต้านทหารญี่ปุ่น ผู้กำกับฯ เห็นว่ากำลังญี่ปุ่นมากเกรงจะต้านไม่อยู่จึงสั่งให้ร้อยตำรวจตรีประดิษฐ์ ศรสุชาติ ไปติดต่อขอกำลังฝ่ายทหารมาช่วย แต่ร้อยตำรวจตรีประดิษฐ์ไปไม่ถึงไหนก็ถูกทหารญี่ปุ่นซุ่มดักยิงจนเสียชีวิต​

โปรดติดตาม​ต่อไป

ข้อมูล#Tk park.pattani