ณ สนามวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานเปิดกิจกรรม “วิ่ง NCC Mnimarathon วิ่งต้านภัยยาเสพติด 2019” เพื่อเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์ ซึ่งสอดคล้องแนวนโยบายภาคใต้ 7 วาระ นราน่าอยู่ อย่างยั่งยืน คือ นราแบ่งปัน มุ่งหวังคนนราทุกวัย ร่วมใจแบ่งปัน สร้างโอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาส สร้างสังคมแห่งคุณธรรมและเกื้อกูล ส่งเสริมผู้สูงอายุที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาสู่แรงงานภาคบริการ โดยมีนักวิ่งจากทุกสารทิศทั้งในพื้นที่นราธิวาส ยะลา ปัตตานี สงขลา และสตูล จำนวนกว่า 1,000 คน
ด้านนายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า งานวิ่ง “NCC MINIMARATHON วิ่งต้านภัยยาเสพติด 2019”ในวันนี้ได้รับความร่วมมือและการสนับสนุนจากหน่วยงานทั้งในและนอกจังหวัดนราธิวาส ผมขอต้อนรับนักวิ่งจากชมรมวิ่งต่างๆในจังหวัดนราธิวาสและต่างจังหวัดทุกท่าน จากคำกล่าวรายงานของประธานกรรมการสภาวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส กิจกรรมการวิ่ง
“NCC MINIMARATHON วิ่งต้านภัยยาเสพติด 2019” วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมครั้งนี้
1.เพื่อรณรงค์ต่อต้านยาเสพติด ส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนมีสุขภาพ ร่างกายที่แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รวมทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยว
ของจังหวัดนราธิวาส ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นยุทธศาสตร์ของจังหวัดนราธิวาส คือส่งเสริม
การท่องเที่ยวของจังหวัดนราธิวาส ได้เห็นความพร้อมเพรียง ความร่วมมือของทุกภาคส่วน
ขอชื่นชมในการเตรียมการจัดการแข่งขันในวันนี้และยังสอดคล้องแนวนโยบายภายใต้
“7 วาระ นราน่าอยู่ อย่างยั่งยืน” คือ นราปลอดภัย เน้นทุกแห่งหน คนปลอดภัย เสริมสร้าง ความเข้มแข็งของหมู่บ้าน ชุมชนเมือง การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด
2.เพื่อมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์
ซึ่งสอดคล้องแนวนโยบายภายใต้ “7 วาระ นราน่าอยู่ อย่างยั่งยืน” คือนราแบ่งปัน
มุ่งหวังคนนราทุกวัย ร่วมใจแบ่งปัน สร้างโอกาสแก่ผู้ด้อยโอกาส สร้างสังคมแห่งคุณธรรมและเกื้อกูล ส่งเสริมผู้สูงอายุที่มีศักยภาพเพื่อพัฒนาสู่แรงงานภาคบริการ
พรหมณี ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชนนราธิวาส เปิดเผยว่า วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส กำหนดจัดงานการวิ่ง “NCC MINIMARATHON วิ่งต้านภัยยาเสพติด 2019” ครั้งนี้ เป็นครั้งแรก มีวัตถุประสงค์เพื่อ รณรงค์ต่อต้านยาเสพติด
ส่งเสริมให้ประชาชนและเยาวชนมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รวมทั้งเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของจังหวัดนราธิวาส
ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งหลังหักค่าใช้จ่ายมอบเป็นทุนการศึกษาให้แก่นักศึกษาเรียนดีแต่ขาดทุนทรัพย์สำหรับกิจกรรมงานวิ่งในครั้งนี้ มี 2 ประเภท คือ 1.ประเภท Fun Run ระยะทาง 5 กิโลเมตร รับสมัครทั้งชายและหญิง ในรุ่นเยาวชน อายุไม่เกิน 15 ปี และรุ่นทั่วไป
2.ประเภท Mini MARATHON ระยะทาง 10.5 กิโลเมตร รับสมัครทั้งชายและหญิง สำหรับเพศชายแบ่งเป็น 5 รุ่น คือ รุ่นอายุ 16 – 29 ปี , 30 – 39 ปี ,40 – 49 ปี , 50 – 59 ปี และรุ่น 60 ปีขึ้นไป และเพศหญิงรับสมัคร 4 รุ่น คือ รุ่นอายุ 16 – 29 ปี , 30 – 39 ปี , 40 – 49 ปี และรุ่น 50 ปีขึ้นไป
โดยมีจุดเริ่มต้นและเส้นชัยที่วิทยาลัยชุมชนนราธิวาส ทั้งนี้ รางวัลชนะเลิศลำดับ
ที่ 1 – 3 จะได้รับถ้วยรางวัล ในทุกประเภทและทุกรุ่น ลำดับที่ 4 – 10 จะได้รับ
ของที่ระลึก รางวัลผู้ชนะชายและหญิงที่เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก ส่วนในประเภท MINIMARATHON ระยะทาง 10.5 กิโลเมตรจะได้รับถ้วย OVRER ALL
นักวิ่งชายรายหนึ่งที่มาจาก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เปิดเผยว่า การวิ่งมาราธอนที่ จ.นราธิวาส ในครั้งนี้ ถือว่าเป็นกิจกรรมที่ดีมากๆ โดยตนได้เดินทางมานอนค้างที่นราธิวาส และถือโอกาสมาท่องเที่ยวในพื้นที่ด้วย โดยเดินทางมากับครอบครัว และเป็นเมืองที่น่าท่องเที่ยว มีธรรมชาติที่สวยงาม รวมถึงศิลปวัฒนธรรม สาสนสถานที่งดงาม ผู้คนในพื้นที่ให้การต้อนรับดี อาหารการกินง่าย และหากมีกิจกรรมดีๆเช่นนี้ ก็จะมาร่วมกิจกรรมอีกอย่างแน่นอน.
ผู้เข้าเส้นชัยประเภทฟันรันอายุ15ปีชาย อันดับ1 รายการนี้ได้แก่..ดช.เตชิตเจนพานิชพงศ์
ฟันรันเยาวชนหญิง อายุ15 ปี ได้แก่นราวัลย์ อุทธศร, มินิมาราธอน อายุ30-39 หญิง ได้แด่นส.กนิษฐา พิมพันธ์, มินิมาราธอนรุ่น 40-49 ปีชาย ได้แก่ นายสมบูรณ์ปัญญาทอง, มินิมาราธอน สูงอายุ50ปีขึ้นไป หญิง ได้แก่นางนรนาถมิตรทะจิตร์, มินิมาราอน สูงอายุ50-59 ชาย ได้แก่ นายชาญชัย ลอยมา, และฟันรันทั่วไปหญิงได้แก่ นส.นาอีมี สะแอมัน
ภาพ/ข่าวแวดาโอะ หะไร บก.@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส