แรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย ทยอยเดินทางกลับภูมิลำเนา ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อกลับมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะมีในวันพรุ่งนี้ ส่วนที่อ.เบตงคุมเข้มเฝ้าระวังเต็มพิกัด
โดย พ.ต.ท.ศุภชัย พละเดช ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาสได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้า เมืองอำนวยความสะดวกพร้อมเพิ่มช่องให้บริการประทับตราหนังสือเดินทางแก่แรงงานไทยที่กลับเข้ามาใช้สิทธิเลือกตั้งเพื่อให้ทุกคนได้รับความสะดวกอย่างเต็มที่
โดยนางสาวกอมือเสาะ เจะนิ ที่เดินทางจากรัฐกลันตัน เข้ามาตั้งแต่ช่วงเช้า เพื่อกลับไปใช้สิทธิเลือกตั้งที่.อ.สายบุรี จ.ปัตตานี กล่าวว่า ตนไม่ได้ไปใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกราชอาณาจักร เพราะตั้งใจกลับมาใช้สิทธิเลือกตั้ง ณ ภูมิลำเนา เนื่องจากสามารถรับทราบเกี่ยวกับข้อมูลผู้ลงสมัครรับเลือกตั้งในเชิงลึกได้ดีกว่าการอ่านจากเอกสาร หรือตามข่าวที่ปรากฏทางสื่อ ทั้งนี้คาดหวังว่าหลังการเลือกตั้งประเทศไทยจะเดินหน้าสู่การพัฒนาที่มีประสิทธิภาพและเต็มรูปแบบ
ด้านนางซัลมา โหละเสีะ ที่เดินทางมาจากรัฐปาหัง ประเทศมาเลเซียกล่าวว่า ตนเองจะเดินทางไปใช้สิทธิที่อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ซึ่งตนเองและเครือญาติที่ไปตั้งรกรากอยู่ในประเทศมาเลเซียเดินทางกันมาทั้งหมดรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้เลือกตั้งอีกครั้ง หลังทิ้งช่วงไปนานมาก ส่วน ส.ส.ในอุดมคติ คือ คนดี ที่พร้อมสร้างประโยชน์เพื่อส่วนรวมและไม่ทอดทิ้งคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมทั้งอยากเห็นการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในทุกด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจและปากท้องประชาชน
ส่วนพื้นที่ยะลาเขต 3 ตรวจเข้ม รับวันเลือกตั้งโดยภายหลังที่มีการแจ้งเตือนจากฝ่ายความมั่นคง ให้ทุกหน่วย สอดส่อง ดูแลการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ และติดการการข่าว อย่างใกล้ชิด หลังจากพบว่า มีความพยายามก่อเหตุความรุนแรงในพื้นที่ที่มีการเลือกตั้งบางเขต ที่มีการแข่งขันสูง ทั้งการลอบทำร้าย จนท. การก่อกวนหน่วยเลือกตั้ง และอาจเข้ามาสร้างสถานการณ์ในเขตย่านชุมชนเมืองด้วย นั้น
ทาง พ.จ.ท.อนันต์ บุญสำราญ นายอำเภอเบตง และพ.ต.อ.ต่อศักดิ์ สารีรัตน์ ผกก.สภ.เบตง ได้สั่งการให้หน่วยกำลังระดับปฏิบัติการ ทั้ง สภ.ต่างๆในพื้นที่อำเภอเบตง สนธิ และ บูรณาการกำลัง จัดหน่วยจรยุทธ์ หน่วยหาข่าว ลงพื้นที่ เพื่อเกาะติดสถานการณ์และเป็นการป้องปรามผู้ไม่หวังดี อาจถือโอกาส สร้างสถานการณ์ ในภาวะที่มีการเตรียมพร้อมของการจัดการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ในวันที่ 24 นี้ อย่างใกล้ชิดและประสานการข่าวกับ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ล่อแหลมอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในเขตเมือง นั้น ให้เฝ้าระวังในย่านชุมชน ย่านเศรษฐกิจการค้า และให้มีการตั้งด่านตรวจในเส้นทางสายหลักและสายรอง รวมทั้งการตรวจหาบุคคลเป้าหมายตามหมายจับโดยทำการตรวจสอบหมายเลข 13 หลัก ตรวจค้นรถยนต์ จักรยานยนต์ต้องสงสัยที่เดินทางมาจากประเทศเพื่อนบ้าน ที่มีอาจมีการซุกวัตถุระเบิด นำมาก่อเหตุรับวันเลือกตั้งได้ตลอด 24 ชั่วโมง จนกว่าการเลือกตั้งเสร็จสิ้น
ปทิตตา หนูสันทัต/เจษฎา สิริโยทัย ทีมข่าว@ชายแดนใต้
