เมื่อวันที่ 22 มี.ค.ผู้สื่อข่าวรายงานจากหมู่บ้านจับยี่ลุ้ย หมู่ที่ 2 ต.ธารน้ำทิพย์ อ.เบตง จ.ยะลา นางเกษร แซ่เจียง อายุ 33 ปี ชาวเบตง ได้ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน ใช้ถุงผูกที่ปลายไม้ไผ่ แล้วนำไปสอยรังมดแดงลงมา จากนั้นนำไปเทใส่ถาดใส่แป้งมันสำปะหลังไว้ จากนั้นมดก็จะทิ้งไข่แล้วเดินหนีไป ไม่ต้องฆ่ามดด้วยวิธีใส่ถังน้ำเป็นการอนุรักษ์พันธุ์มดแดงไปในตัว และ นำไข่มดแดงมาส่งขาย ที่ตลาดสดเทศบาลเมืองเบตง และตามร้านอาหารต่างๆ
โดยแบ่งไข่มดแดงขายห่อละ 50 บาท ซึ่งปรากฏว่าแต่ละวันขายดีจนไม่พอขาย เพราะคนนิยมซื้อไปแกงกับผักหวานป่า หรือนำไปเจียวกับไข่ หรือนำไปปรุงกับวัตถุดิบต่าง ๆ มากมาย เพื่อรับประทาน ทำให้มีรายได้ต่อวันสูงประมาณ 2,000 – 3,000 บาท
นางเกษร บอกว่า ไข่มดแดงที่มีให้รับประทานนั้นจะมีเฉพาะหน้าแล้งเท่านั้น ซึ่งขณะนี้กำลังเริ่มฤดูกาล และจะมีให้รับประทานกันในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ – เมษายนนี้เท่านั้น โดยนำมาขายที่เตลาดสดเทศบาลเมืองเบตงและตามร้านอาหารต่างๆ ทุกปี ตามที่ทางร้านอาหารสั่งจอง ซึ่งไข่มดแดงที่นำมาขายส่งกิโลกรัมละ 500 บาท ซึ่งได้หาเองจากในป่า ยืนยันว่าปลอดภัยจากสารเคมีทุกประเภท รับรองความปลอดภัย ซึ่งบางเจ้าใช้สารเคมีเพื่อฆ่าแม่มดแดง ส่วนตนจะไม่ใช้สารเคมีเพื่อให้มดแดงมีการแพร่ขยายพันธุ์ในปีต่อไป และยังเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
สำหรับคุณค่าทางอาหารของไข่มดแดงตามตัวเลขของกรมอนามัยคือ มีโปรตีนสูง 8.2 กรัม/100 กรัมของไข่มด นับว่ามีมากพอสมควร ส่วนไขมันในไข่มดแดงจะน้อยกว่าในไข่ไก่มาก มีเพียง 2.6 กรัมเท่านั้น เทียบกับในไข่ไก่ซึ่งมีมากถึง 11.7 กรัม แคลอรีจากไข่มดแดงจึงน้อยกว่าไข่ไก่
ข่าว….เจษฎา สิริโยทัย ทีมข่าว@ชายแดนใต้ อ.เบตง จ.ยะลา
