อนุทินฯยกทัพภูมิใจไทยจัดเวทีใหญ่นราธิวาส​ ปชช.หลั่งไหลแห่เชียร์​ ลั่นเปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร

0
389

ที่ อ.รือเสาะ เมื่อเย็นถึงช่ววค่ำวานนี้​  ประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาให้กำลังใจแน่นสนามกีฬา ทำให้รถติดในเขตเทศบาลตำบลรือเสาะนานหลายชั่วโมง​ ชาวบ้านประชาชนนับหมื่นต่างแห่กันมาเพื่อนั่งฟังนโยบาย​และการปราศรัย​ ชูประเด็นพร้อมรับแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร เปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน ชูปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ตัน สร้างรายได้ปีละ 400,000 บาท


ณ สนามกีฬาเทศบาลตำบลรือเสาะ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายอนุทิน ชาญวิรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย พร้อมด้วย ดร.นาที รับกิจประการ กรรมการบริหารพรรค ศุภชัย ใจสมุทร กรรมการบริหารพรรคฯ นำตัวผู้สมัครพรรคภูมิใจไทยในพื้นที่ จ.ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ขึ้นเวทีแนะนำตัวให้กับประชาชนที่มานั่งฟังการปราศรัยใหญ่พร้อมรับฟังนโยบายเมื่อนายอนุทิน​ ชาญวีรกูล​ หน.พรรคฯมาถึง​ มีประชาชนต่างมาร่วมต้อนรับมอบดอกไม้และถ่ายรูปเซลฟี่กับนายอนุทิน ฯ กันอย่างคึกคัก

งานจัดเวทีใหญ่ครั้งนี้ ผู้คนจำนวนไม่น้อยกว่า 35.000 คน แน่นสนามท่ามกลางแสงแดดที่ร้อนระอุ โดยไม่มีใครยอมหนีไปไหน


จากนั้นผู้สมัคร สส.พรรคภูมิใจไทยจากพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส สลับกันขึ้นเวทีแนะนำตัวให้ประชาชนที่มาร่วมรับฟังนโยบายได้รู้จักพร้อมนำเสนอในสิ่งที่นโยบายพรรคมีความต้องการที่จะพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ให้ก้าวไกลไปในทุกๆด้านทั้งด้านการศึกษาและการพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวเพื่อเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้มาเยือนและชื่นชมในความสวยงามของธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นที่ให้เกิดรายได้และการหมุนเวียนของเงินตราให้เกิดความมั่นคงต่อประชาชนในอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการแก้ปัญหาด้านการประมง การท่องเที่ยว และเกษตรกรรม
จากนั้นนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูใจไทย ได้ขึ้นปราศรัยนโยบายของพรรคที่จะทำให้ประชาชนอยู่ดีกินดี โดยการแก้ปัญหาด้านเศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาปากท้องของประชาชนโดยเฉพาะยางพารา

ซึ่งทางพรรคนโยบายชัดที่จะรับที่จะทำให้ราคายางพาราสูงถึงกิโลกรัมละ 70 บาท ปาล์มน้ำมันกิโลกรัมละ 5 บาท การยกระดับ อสม.เป็นหมอประจำบ้าน ค่าตอบแทน 2,500 – 10,000 บาท ต่อเดือน ลดอำนาจรัฐเปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงจักรกล ทวงคืนคืนกำไรให้เกษตรกร เปลี่ยนสวนปาล์มเป็นบ่อน้ำมัน โรงไฟฟ้าจากน้ำมันปาล์ม ยางพาราระบบกำไรแบ่งปันเป้าหมายที่ กก.ละ 70 บาท แก้กฎหมายประมงเพื่อทางรอดชาวประมงไทย ออกกฏหมายเขตเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนเสียงระเบิดเป็นเสียงเครื่องจักร เปลี่ยนงบลับเป็นงบลงทุน สร้างงาน สร้างรายได้ แก้หนี กยศ ปลดภาระผู้ค้ำประกัน ไม่มีดอกเบี้ย ไม่มีค่าปรับ ผ่อนคืนเงินต้น 10 ปี ปลอดหนี้ 5 ปี เรียนออนไลน์ฟรีตลอดชีพ ทุกคนต้องมีโอกาสได้เรียนฟรีเท่าเทียมกัน


ซึ่งตลอดเวลาของการแถลงนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในครั้งนี้ สร้างเสียงปรบมือจากประชาชนที่มารับฟังนโยบายอยู่ตลอดเวลาและที่เกิดเสียงหัวเราะและสร้างรอยยิ้ม และปรบมือชื่นชอบของประชาชนมากที่สุดคือ นโยบายการสร้างรายได้อย่างมหาศาลต่อครอบครัวในยามเศรษฐกิจฟืดเคือง คือการปลูกกัญชาครัวเรือนละ 6 ต้น และเมื่อปลูกแล้วจะสามารถไปขายให้กับองค์กรภาครัฐที่จะตั้งขึ้นมา กก.ละ 70,000 บาท นำไปผสมอาหารได้ ปรุงอาหารได้ รักษาโรคได้ ป้องกันโรคได้ จะสร้างรายได้ครัวเรือนละ 400,000 บาท ต่อปี


ด้าน ดร.นาที รับกิจประการ กรรมการบริหารพรรคภูมิใจไทย อดีต สว.และ สส.จ.พัทลุงในฐานะแม่ทัพของพรรคดูแลผู้สมัคร สส.ใน 14 จังหวัดภาคใต้ 50 เขต เปิดเผยว่า ในวันนี้มีโอกาสมาพบปะกับผู้สมัคร สส.ของพรรคใน 3 จังหวัดภาคใต้ ส่งครบ 11 เขต โดยนโยบายเน้นในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ พร้อมยกระดับภาคใต้ให้เท่าเทียมภาคกลางที่มี AEC และนโยบายการเกษตร การศึกษา ให้เป็นที่ยอมรับ โดยเฉพาะนักศึกษาที่จบมาจากต่างประเทศ ซึ่งจะต้องได้รับการยอมรับจากประเทศไทย การเรียนฟรีทางมือถือเพื่อลดภาระของครอบครัว และการสร้างงานให้ประชาชนในพื้นที่ การพัฒนาการท่องเที่ยว ในฝั่งอ่าวไทย การแก้ปัญหาการประมงพื้นบ้านจะต้องทะลายทุกข้อจำกัดที่เป็นปัญหาอุปสรรคอยู่ในขณะนี้ เรื่องของ OTOP เรื่องของอาหาร ผ้า และสินค้าต่างๆที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น ต้องสร้างให้เป็นรายได้แก่ท้องถิ่นไปด้วย ส่วนของ 3 จังหวัดภาคใต้ 11 ที่นั่ง ทางพรรคได้ส่งทุกเขต และคาดการไว้อย่างน้อย 5 เขต ถ้าประชาชนให้โอกาส

ข่าว.แวดาโอ๊ะ หะไร /ทีมข่าว@ชายแดนใต้จ.นราธิวาส