แม่ทัพภาคที่ 4 ระดม​เครือข่ายและพี่น้องไทยพุทธ จชต.ชี้แจงการแก้ไขปัญหาความไม่สงบ

0
399

เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 62  ที่ห้องประชุม 1 อาคารกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า (กอ.รมน.ภาค 4 สน.) ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ได้เชิญตัวแทนพระสงฆ์ ตัวแทนพี่น้องประชาชนชาวไทยพุทธ อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน (อรบ.) ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา เข้าร่วมประชุมพบปะ แลกเปลี่ยนความคิดเห็น รวมทั้งรับฟังแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้

พลโทพรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 กล่าวในที่ประชุมว่า ที่เชิญทุกท่านมาในที่ประชุมในวันนี้ เพราะด้วยหน้าที่แม่ทัพภาคที่ 4 และผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่จะต้องดูแลพี่น้องประชาชนทุกท่าน ในส่วนของ 3 จังหวัดและ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา กว่าสองล้านคนเศษ จะต้องดูแลทุกท่านอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติต่อใครคนใดคนหนึ่งมากกว่ากัน แต่ทุกครั้งที่เกิดเหตุการณ์ขึ้นกับพี่น้องไทยพุทธ ตนเองก็รู้สึกเจ็บปวดกับการสูญเสียเหล่านั้น

ดังนั้น นโยบายสำคัญที่ได้เน้นย้ำ ให้หน่วยในพื้นที่ลงไปปฏิบัติคือ การควบคุมพื้นที่ เพื่อสร้างความปลอดภัยต่อพี่น้องประชาชน ให้ใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างเป็นปกติ และจึงเสริมด้วยการแก้ไขปัญหายาเสพติด ที่เป็นปัญหาทับซ้อนที่สำคัญ เพราะยาเสพติดจะลดคุณภาพของประชาชนโดยเฉพาะเยาวชนลูกหลานเราให้ด้อยลง นโยบายที่สาม คือการสร้างเป็นสังคมพหุวัฒนธรรม เพื่อพี่น้องทุกท่านทุกเชื้อชาติศาสนา อยู่รวมกันได้อย่างปกติ คืนสภาพสังคมเดิมที่เราเคยอยู่ร่วมกันกับมา
“ผมจึงเน้นย้ำให้กำลังพลได้เพิ่มมาตรการ รปภ. ทั้งนี้เพราะในช่วงไม่นานมานี้เราได้บังคับใช้กฎหมายต่อ ผู้ก่อเหตุรุนแรง จนถึงขั้นเสียชีวิต ผมมีความห่วงใยว่าพี่น้องไทยพุทธจะตกเป็นเป้าหมายเชิงสัญลักษณ์ของผู้ก่อเหตุ โดยเน้นการมีส่วนร่วมกำลังประจำถิ่น และภาคประชาชน เพิ่มประสิทธิภาพด่านตรวจร่วม 3 ฝ่าย ทั้ง 1,970 หมู่บ้าน จัดชป.จรยุทธ์ นอนนอกฐาน เพ่งเล็งเส้นทางโจรในหมู่บ้านทั้งกลางวันและกลางคืน เฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยง รอยต่อชุมชนไทยพุทธ วัด ให้มีกำลังจรยุทธ์ดูแลความปลอดภัย และสร้างความเข้าใจให้มั่นใจตลอด 24 ชม. ซึ่งก็ขอให้พี่น้องทุกท่านได้มั่นใจกับมาตรการที่จะดูแลพี่น้องไทยพุทธ และให้กำลังเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ด้วย” มทภ.4 กล่าว


ด้านนายรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพ ได้กล่าวก่อนเข้าร่วมประชุมว่า ในการประชุมครั้งนี้ก็ทราบว่า เป็นการชี้แจงกับพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย ประเด็นหลักๆ ตนเองอยากให้ทางแม่ทัพชี้แจงในวันนี้คือ ประเด็นที่มีการสร้างความขัดแย้งกันในกลุ่มไลน์ ภายในสื่อโซเชี่ยล เช่น เป็นโจรได้1ล้านบาท โครงการพาคนกลับบ้าน ต้องให้เงินด้วยอะไรด้วย ตนเชื่อว่าประเด็นเหล่านี้ จะต้องทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวไทยพุทธในพื้นที่ด้วย เพื่อที่จะได้มีการแก้ไขปัญหา ในส่วนของมิติการดูแลรักษาความปลอดภัย ที่มีการปรับเปลี่ยนวิธีการดูแลรักษาความปลอดภัยมาโดยตลอด แต่สิ่งที่อยากให้ควรทำด้วยคือไม่ว่าจะเป็นพี่น้องชาวไทยพุทธ หรือชาวไทยมุสลิม ก็คือปรับตัวให้เข้ากับแผนในการดูแลรักษาความปลอดภัยด้วย อีกประเด็นหนึ่งในเรื่องของด่าน ที่ไม่มีใครดูแล เป็นด่านว่างๆ ก็อยากให้ดำเนินการเคลื่อนย้ายออก เนื่องจากบรรยากาศที่บอกว่าเหตุการณ์ดีขึ้น มันจะได้ดีขึ้นจริงๆ
“ประเด็นการพูดคุยสันติสุข ซึ่งมีการตั้งกรรมการขึ้นมาเยอะแยะ ในเรื่องของการพัฒนาพื้นที่ การลงพื้นที่บางพื้นที่ใน 4 อำเภอของสงขลา มันยังไม่ได้รับการพัฒนา การไปมาหาสู่ของชาวบ้านก็ยังลำบาก การลงพื้นที่ของ ศอ.บต. และ กอ.รมน. ก็มีความจำเป็นที่จะต้องลงไปดูในเรื่องนี้ด้วย ส่วนการเดินหน้าพูดคุยสันติสุข นั้นทางรัฐเองก็ยังคงต้องพูดคุยกับกลุ่มมาราปัตตานี รวมทั้งกลุ่มที่อยู่ในพื้นที่ที่ก่อเหตุอยู่ด้วย เนื่องจากในกลุ่มของมาราปัตตานี ก็อาจจะไปไม่ถึงกลุ่มบางกลุ่มที่ก่อเหตุ แต่ถ้าทางภาครัฐเขาไปพูดคุยได้ ก็จะทำให้สถานการณ์พื้นที่เบาบางลง แต่อย่างไรก็ตามก็อยู่ที่ความไว้วางใจซึ่งกันและกัน ว่าจะไว้ใจกันได้มากน้อยขนาดไหน” นายรักชาติ กล่าว

ภาพ/ข่าว​ มูกะตา หะไร @ชายแดนใต้​  จ.ยะลา