@ชายแดนใต้มีโอกาสสั้นๆมาพบกับ คุณรอมือละห์ แซเยะ ซึ่งผันตัวเองขอมาอาสาเข้าทำงานด้านการเมืองอีกคน เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ ของพรรคประชาชาติ เธอคือ ผู้ทำงานนักกิจกรรมในพื้นที่ชายแดนใต้ กับสตรีและผู้รับผลกระทบ
ในปีที่เธอจบจากรั้วมอ.ปัตตานี นั่นคือเริ่มต้นเหตุการณ์ไฟใต้ ครั้งใหม่ในปี 47 พอดี จากนั้นทำให้เธอก้าวเข้าไปเกี่ยวข้องกับสตรีผู้ได้รับผลกระทบ และได้ลงดำเนินงานที่เกี่ยวข้องด้านสตรีชายแดนใต้ตลอดมา ผ่านประสบการณ์อาสา เยียวยา เป็นคนขับเคลื่อนด้านองค์กรสตรียุติความรุนแรง ทำงานมาตลอดกับผู้ได้รับผลกระทบ ทราบปัญหาดี และเธอยังมีธุรกิจบริการร้านอาหารของตนเอง ปัจจุบันอายุ 37 ปี จาก ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ได้ผู้สมัครสส.ปารตี้ลิสต์ได้ลำดับที่21
@ชายแดนใต้ #เป็นอย่างไรบ้างถึงมาลงสนามการเมืองครั้งนี้
คิดแล้วคิดอีก เพราะเป็นความรับผิดชอบใหญ่หลังการตัดสินใจ แต่เห็นเป็นโอกาส เป็นหนทางสู่การเปลี่ยนแปลงผ่านระบบเชิงโครงสร้าง จึงก้าวเข้ามาเลือกหนทางนี้อย่างเปิดใจ พร้อมต้องการเรียนรู้สู่เส้นทางใหม่ในการทำงาน เพื่อต้องการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้นด้วยค่ะ
@ชายแดนใต้#ถ้ามีโอกาสสอบผ่านคาดหวังจะทำอะไรบ้างครับ
คาดหวังที่จะเป็นตัวเฟือง อณูเซล โมเลกุลเป็นผู้ขับเคลื่อนได้จริง ตามแต่บทบาทที่เราสามารถจัดการเพื่อการเปลี่ยนแปลง เราต้องกล้าที่เอาตัวเองไปอยู่ในพื้นที่ใหม่ๆ พื้นที่แตกต่างไปจากเดิม ต้องกล้าที่จะเอาตัวเองออกจากที่แคบไปสู่ที่กว้างขึ้น เพื่อขยายโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาในพื้นที่บ้านเราได้ ทั้งจุดเล็กจุดใหญ่ อีกทั้งต้องเชื่อมั่นในพลังศักยภาพที่มีอยู่ในตนเองและการเรียนรู้ที่ไม่มีวันสิ้นสุด เราต่างรู้ดีว่าไม่มีใครเก่งในทุกเรื่อง แต่เราสามารถเติมเต็มในส่วนที่เราถนัดกันได้ และตัวเองต้องมุ่งมั่นพยายามเรียนรู้ เพื่อให้มีค่ามีพลังต่อการพัฒนาในคุณภาพชีวิตและศักยภาพสังคมรอบๆตัวเรา ให้ทันโลก ทันยุคการแข่งขัน ให้ชีวิตคนชายแดนใต้ดีๆยิ่งขึ้นไปกว่านี้
@ชายแดนใต้#ทำไมปชช.ถึงต้องเลือกพรรคประชาชาติ
ที่เลือกพรรคประชาชาติ เพราะประทับใจและชอบความคุณภาพทั้งชื่อพรรคประชาชาติที่แปลว่าประชาชน เพื่อประชาชน โดยประชาชน และบุคลากรที่หลอมรวมมาอยู่ด้วยกันในพรรคประชาชาติเป็นคนคุณภาพ ที่สามารถนำคนคุณภาพจากหลายภาคส่วนมาอยู่ด้วยกัน ทำให้เป็นโอกาสของนักการเมืองรุ่นใหม่อย่างเรา ที่ได้มีโอกาสเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง จากคนอื่นๆที่มีความสามารถมีความรู้ในด้านต่างๆ
ที่สำคัญที่สุดคือเป็นสังคมของทุกคนทุกเชื้อชาติ คือพรรคพหุวัฒนธรรม ที่ให้โอกาสสำหรับคนตัวเล็กตัวน้อย คนชายขอบ ทุกๆพื้นที่ ให้มามีบทบาทเป็นส่วนเติมเต็มกัน ทำให้เห็นความหลากหลายของชาติพันธุ์ต่างๆ และความหลากหลายของความเป็นอยู่ของผู้คน รู้สึกได้ถึงความอบอุ่นที่ถูกมอบให้ สำหรับเราอาจเจอบททดสอบของการเรียนรู้การปรับตัวการทำงานร่วมกันไปบ้าง แต่ก็ไม่ได้แย่ถึงขั้นจัดการไม่ได้ เพราะช่วงห่างระหว่างวัยในพรรคอาจมีผลในช่วงเริ่มต้น แต่เมื่อเปิดใจเปิดโอกาสกันแล้ว ทำให้เห็นเป็นโอกาสดีที่ได้เติมเต็มกันมากกว่ามั่นใจ ในหัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค และพลังทั้งหมดในประชาชาติค่ะ
ทีมข่าว@ชายแดนใต้
