ยะลา- คืบกรณีอดีตครูอนาจาร ขยี้กามเด็ก 13 ผู้กำกับเผย ออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่พบตัว

0
3611

ยะลา- คืบกรณีอดีตครูอนาจาร ขยี้กามเด็ก 13 ผู้กำกับเผย ออกหมายจับแล้ว แต่ยังไม่พบตัว

จากกรณีมีผู้ปกครองนักเรียนหญิง สถานที่พักรับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ และสอนศาสนา ใน ต.ยะลา อ.เมือง จ.ยะลา  รวมจำนวน 5 คน หลัง โล่เข้าแจ้งความร้องทุกข์ ต่อ ร.ต.อ.พัฒนา แก่นแก้ว รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองยะลา ให้ดำเนินคดีกับ นาย ซ. (นามสมมติ )อายุ 65 ปี  เจ้าของสถานที่พักรับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ และสอนศาสนา เป็นข้าราชการครูบำนาญ ถูกล่วงละเมิดพรากผู้เยาว์ นั้น 

ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 20 ก.พ.62 ที่ผ่านมา พ.ต.อ.ประวิตร ช่อเส้ง ผกก.สภ.เมืองยะลา ได้เปิดเผยว่า เกี่ยวกับคดีนี้ ในห้วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2560 และครั้งหลังสุด เหตุเกิดเมื่อวันที่ 15 ก.พ.2562 เป็นพฤตการณ์ของผู้ถูกกล่าวหาว่า กระทำอนาจาร กระทำชำเลา เด็กนักเรียนที่ตัวเองเป็นครู เป็นเจ้าของโรงเรียน พนักงานสอบสวนได้รับแห้งเหตุเรื่องนี้จากผู้เสียหาย ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนที่ถูกกระทำ เมื่อวันที่ 18 ก.พ.62 ที่ผ่านมา หลังจากนั้นทางเจ้าหน้าที่ได้รวบรวมพยานหลักฐาน ขณะนี้ได้มีการออกหมายจับ ผู้ต้องหาไว้แล้ว  มีผู้เสียหายทั้งหมด 5 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามจับกุมตัว คิดว่าน่าจะดำเนินการจับกุมตัวได้ในเร็วๆนี้  ตอนนี้เจ้าหน้าที่ยังไม่เจอตัว แต่ทางเจ้าหน้าที่เร่งติดตามจับกุม ตามหมายจับ อย่างถึงที่สุด เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้  ในส่วนของคดี หากคดีที่รับเรื่องจากพนักงานสอบสวน มีอัตราโทษสูงกว่า 3 ปี ขึ้นไป เจ้าหน้าที่ออกสามราถดำเนินการออกหมายจับได้ โดยไม่ต้องออกหมายเรียก

 ส่วนที่คลินิกกฎหมายและศูนย์สิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา อาจารย์อารีฟ มะเกะ และอาจารย์ อารยา ชินวรโกมล อาจารย์ประจำคลินิกกฎหมายและศูนย์สิทธิมนุษยชน ได้รับเรื่องจากผู้ปกครองผู้เสียหาย พร้อมประสานดำเนินการ  ด้าน อาจารย์อารีฟ มะเกะ อาจารย์หลักสูตรนิติศาสตร์ประจำคลีนิคกฎหมายและศูนย์สิทธิมนุษยชน เปิดเผยข้อมูลว่า จากกรณีดังกล่าว ทางศูนย์ได้คำปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของคดีอาญา และคดีแพ่ง แต่ท้ายสุดต้องดูสำนวนของพนักงานสอบสวน ว่ามีแนวโน้ม แนวทางอย่างไร ซึ่งทางศูนย์ได้ให้คำปรึกษา เพื่อให้ผู้ปกครอง สบายใจ เพื่อให้สามารถเดินต่อได้ โดยการประสานหน่วยงานที่รับเรื่องทั้งยุติธรรมจังหวัด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดต่อไป

อาจารย์ อารยา ชินวรโกมล เปิดเผยว่า กรณีที่ผู้ปกครองเดินทางมาที่  คลินิกกฎหมายและศูนย์สิทธิมนุษยชน มหาวิทยาลัยราชภัฎยะลา ประเด็นหนึ่งที่มีการหารือ คือ สภาพแวดล้อมสุขอนามัยของสถานที่แห่งนี้ ได้มีการเล่าสู่กันฟังว่า สภาพแวดล้อม อการเป็นอยู่หลับนอน ค่อนข้างน่าเป็นห่วง อย่างสภาพที่นอน การนอน ความสะอาด ต่างๆ และอาหารการกิน ตรงนี้ต้องเข้าไปตรวจสอบ ซึ่งตรงนี้คงต้องดูเกี่ยวกับเรื่องของตัวเด็กเอง และสภาพแวดล้อม สิ่งสำคัญที่จะทำให้เด็กเกิดการพัฒนา สภาพแวดล้อมต้องเอื้อต่อการพัฒนาคุณภาพทางด้านการศึกษา

ด้านนางบุษยมาส อิศดุลย์ เปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมว่า สิ่งที่เราเป็นห่วง คือมีเด็ก 5 คนที่ลุกขึ้นมาบอกผู้ปกครอง และผู้ปกครองเดินทางแจ้งความดำเนินคดี และยังมีเด็กอีกหลายคนที่ผู้ปกครองยังไม่ทราบ อย่าลืมว่า ไม่ใช่มีเพียงเฉพาะเด็กในจังหวัดยะลา ผู้ปกครอง 2 ใน 5 คน ที่มาแจ้งความเป็นคน อ.ศรีสาคร จ.นราธิวาส ซึ่งขณะนี้ สถานที่พักรับสอนพิเศษภาษาอังกฤษ และสอนศาสนา แห่งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งผู้ปกครองให้มารับตัวเด็กเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ในส่วนของผู้ปกครองที่เข้าแจ้งความ  ยังอยู่ในสภาวะเครียด ไม่พร้อมจะให้ข้อมูลกับทางผู้สื่อข่าว

ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ยะลา