ผู้สมัคร สส.เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ จ.นราธิวาส แห่พบ กกต.นราธิวาส ร้องขอความเป็นธรรมด้วยน้ำตาถูกกลั่นแกล้ง กรณียื่นหลักฐานการสมัคร สส.ถูก ผอ.เขต 3 ต้องการหลักฐานตัวจริง ในขณะที่ฝ่ายกฎหมายของพรรคฯยันใช้แทนกันได้ โดยมีประชาชนมาให้กำลังใจกว่า 200 คน
เมื่อเวลา 11.30 น.วันที่ 5 ก.พ.62 นางตัสมีน เจ๊ะตู ผู้สมัคร สส.เขต 3 จากพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยประชาชนมาให้กำลังใจ จำนวนกว่า 200 คน มา พบนายกำธร ทองขุนดำ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดนราธิวาส เพื่อขอความเป็นธรรม
โดยนางตัสนีม เจ๊ะตู ผู้สมัคร สส.เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ จ.นราธิวาส เปิดเผยว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4.ก.พ.62ที่ผ่านมา คือ ตนพร้อมทั้งทีมงาน แกนนำและชาวบ้านที่มาให้กำลังใจได้เดินทางมาสมัคร.สส.ณ อาคารเฉลิมพระเกียรติ 7 พรรษา ศาลากลางจังหวัดนราธิวาส และได้ทำการลงทะเบียนสมัคร สส.และตนยังได้รับฉลากเบอร์ประจำตัวเป็นเลขที่ 11 จากจำนวนผู้สมาสมัคร 12 คน แต่ผู้สมัครท่านอื่นๆได้ทำการหยิบเบอร์ประจำตัวจนครบทั้ง 12 คน แต่ได้ทิ้งหลายเลข 1 ไว้ ไม่มีใครได้ไป ตนจึงได้หมายเลข 1 ไป ซึ่งเป็นหมายเลขที่ทุกคนต้องการ เพราะจำง่าย ซึ่งทุกคนอยากได้และตนเองก็ขอให้ได้หมายเลข 1 ซึ่งถ้าได้หมายเลขอื่นก็ไม่ได้ถือว่าเลวร้าย หลังจากนั้นเข้าสู่กระบวนการตรวจเอกสารของผู้สมัคร พร้อมเปิดแฟ้มผู้สมัคร สส.จากพรรคพลังประชารัฐที่ทุกเขตทั้ง 350 ทั่วประเทศ และได้ผ่านการยื่นเอกสารทั้งหมดผ่านการตรวจสอบจากฝ่ายกฎหมายของพรรคอย่างละเอียดรวม 3 ครั้งมาแล้ว จนครบไม่มีขาดตกแม้แต่อย่างเดียว หลังจากนั้นมีผู้อำนวยการการเลือกตั้ง เขต 3 ได้เดินเข้ามาถามว่าอันไหนที่เป็นเอกสารตัวจริง ตนจึงแจ้งว่าหลักฐานเอกสารทั้งหมดที่นำมาแสดงในวันนี้ทางฝ่ายกฎหมายของพรรค ยืนยันแล้วว่าสามารถใช้เป็นหลักฐานในการสมัครได้อย่างถูกต้อง แต่ท่าน ผอ.เขต 3 คนนั้น ได้พูดว่า “ไม่ได้ ต้องใช้หลักฐานตัวจริง” จากนั้นตนจึงได้โทรหาฝ่ายกฎหมายของพรรคจึงประสารเพื่อชี้แจงในรายละเอียดกับ ผอ.เขต 3 แต่ทาง ผอ.เขต 3 กลับตอบมาว่า “ผมไม่คุยกับใครทั้งนั้น” ตนจึงรู้สึกว่าความเป็นมิตรภาพไม่ได้เกิดขึ้นกับตนแล้ว จากนั้นตนจึงต้องประสานไปยังสสรรพากรจังหวัดเพื่อขัดลอกหรือขอสำเนามา โดยทาง ผอ.ยื่นคำขาดว่าให้เวลาตนเพียง 10 นาที เท่านั้น ซึ่งเป็นการตัดโอกาสและเป็นการกันแกล้งตนมากกว่า ซึ่งเวลา 10 นาที ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้เลย และ ผอ.เขต ยังพูดต่อไปอีกว่า ขณะที่กำลังต่อรองเรื่องเวลานั้น ขณะนี้หมดไปแล้ว 3 นาที ทำให้ตนรู้สึกยิ่งไม่ได้รับความเป็นธรรม และตนเป็นเพียงผู้ใช้สิทธิ์ของตัวเองในฐานะคนหนึ่งที่ต้องการใช้หลักประชาธิปไตยให้เกิดขึ้นได้ในพื้นที่ แต่ได้พยายามคุมสติ อดทนจนเวลา 15.00 น.และทุกคนก็ไม่ได้ทานข้าวกันตั้งแต่เช้า จากนั้นทางเจ้าหน้าที่ก็แจ้งมาว่าหมดเวลารับสมัคร ซึ่งทำให้ตนหมดสิทธิ์การใช้หมายเลข 1 ไป พร้อมทั้งได้ให้หมายเลข 1 กับผู้สมัครรายอื่นไป
แต่วันนี้จึงมาขอร้องความเป็นธรรมจาก กกต.กลาง ประจำจังหวัดนราธิวาส แต่ไม่ได้มาบอกว่า ใครผิดใครถูก แต่จะมาบอกกล่าวถึงความเป็นจริงที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องแปลกที่ผู้สมัครจากพรรคฯในพื้นที่จังหวัดอื่นนำหลักฐานเหมือนกับตนทุกอย่าง แต่สามารถสมัครผ่านไปได้ด้วยดี แต่ตนกลับไม่ได้ พร้อมทั้งทิ้งคำถามไว้ว่า ทำไมที่นราธิวาสกลับไม่ได้
ด้านนายกำธร ทองขุนดำ กกต.จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า หลังจากที่ได้หารือถึงประเด็นต่างๆอย่างถี่ถ้วนกับผู้สมัคร สส.รายนี้แล้ว มีความเห็นร่วมว่า จากกรณีที่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นเมื่อวันจันทร์ที่ 4 ก.พ.62 ที่ผ่านมานั้น นางตัสนีม เจ๊ะตู ผู้มีความประสงค์จะสมัคร สส.เขต 3 จ.นราธิวาส สังกัดพรรคพลังประชารัฐ ได้เข้ามาร้องเรียนขอความเป็นธรรม โดยตนในฐานะ ผอ.กกต.จังหวัดนราธิวาส ได้รับฟังปัญหา และพูดคุยทำความเข้าใจ ประเด็นปัญหาต่างๆและหาทางออกร่วมกัน โดยบรรยากาศ ของการพูดคุยเป็นไปด้วยดี ได้มีความเห็นพ้องร่วมกันในประเด็นที่สำคัญ 2 ประเด็น ดังต่อไปนี้ 1.ทางสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง โดยผู้อำนวยการการเลือดตั้งได้รับคำร้องของนางตัสนีม เจ๊ะตู ว่าทีสมัคร สส.เขต 3 สังกัดพรรคพลังประชารัฐ เข้าสู่กระบวนการเพื่อให้มีผู้มีอำนาจได้พิจารณาคำร้อง เพื่อให้ความเป็นธรรมต่อผู้ร้องต่อไป 2.สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจังหวัดนราธิวาส มีความห่วงใยในเรื่องสิทธิ์สมัครของผู้ร้อง (นางตัสนีม เจ๊ะตู) ทั้งนี้ขอเรียนว่า วันนี้ก็ยังเปิดรับสมัครอยู่จนถึงวันศุกร์ และยังมีช่องทางเปิดโอกาสให้ผู้ร้อง ได้เข้าใช้สิทธิ์สมัครได้ตามประสงค์ต่อไป ส่วนเรื่องที่รับคำร้องไปแล้วนั้น ก็ดำเนินการเดินหน้าเป็นคู่ขนานต่อไป
ซึ่งภายหลังจบการชี้แจงจาก ผอ.กกต.จังหวัดนราธิวาส แล้วทางชาวบ้านที่มาให้กำลังใจได้แสดงความดีใจและให้กำลังใจผู้สมัครให้สู้ๆและสู้ๆต่อไป.
ภาพ/ข่าวแวดาโอะ หะไร บก.@ชายแดนใต้จ.นราธิวาส
