ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย ที่ โรงแรมตันหยง อ.เมือง จ.นราธิวาส นายสนั่น ทองจีน ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ภาค 9 หรือ ป.ป.ช.ภาค 9 เป็นประธานในการสัมมนาปัญหาสนามกีฬาจังหวัดนราธิวาสกับแนวทางการป้องกัน โดยมีว่าที่ร้อยโทวีรศักดิ์ หนวิชิต ผอ.สำนักตรวจเงินแผ่นดิน จ.นราธิวาส นายภูธเรศ คงเอียด สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินภูมิภาคที่ 15 จ.สงขลา พ.ต.อ.กษิดิศ เพิ่มพูนวิวัฒน์ ผอ.สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ภาค 9 หรือ ปปท.เขต 9 รวมทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม


โดยการสัมมนาในเชิงถกร่วมครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายที่จะให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในเชิงบวกระหว่างหน่วยงานและภาคประชาชน ซึ่งเป็นไปตามโครงการพัฒนามาตรการเชิงรุกเพื่อป้องกันและยับยั้งการทุจริตโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของภาครัฐ (Mega Project)

   ซึ่งที่ประชุมได้หยิบยกปัญหาสนามกีฬา จ.นราธิวาส เป็นเคสตัวอย่าง เนื่องจากผู้รับเหมาทิ้งงานก่อสร้าง จนทำให้สนามกีฬา จ.นราธิวาสสร้างไม่แล้วเสร็จ ค้างเติ่งกลายเป็นเรื่องที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ในวงกว้าง ทั้งนี้จากข้อมูลของ ปปท.และ ป.ป.ช.ภาค 9 พบว่าจากการที่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับจัดสรรงบประมาณสร้างสนามกีฬา 7 แห่ง 7 จังหวัด และ 1 ในนั้นคือนราธิวาส วงเงินรวม 22,407 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 6 ปี (2554-2559) โดยได้ทำ MOU กับกรมทางหลวง ทั้งๆที่กรมทางหลวงไม่มีหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการสร้างสนามกีฬาแต่อย่างใด โดยกรมทางหลวงได้มอบหมายให้ศูนย์สร้างทางลำปางดำเนินการก่อสร้าง แต่บุคลากรไม่เพียงพอ ทำให้งานก่อสร้างใน 5 จังหวัด (รวมทั้งนราธิวาส) ล่าช้าไม่เสร็จตามกำหนด


ทางด้านนายสนั่น ผช.เลขาฯ ป.ป.ช.ภาค 9 กล่าวว่า สนามกีฬา จ.นราธิวาส เป็น Mega Project ขนาดใหญ่ โครงการลงทุนยิ่งมีขนาดใหญ่ ความเสี่ยงที่จะมีการทุจริตยิ่งมีมาก เนื่องจากผู้เกี่ยวข้องมีจำนวนมากและวิธีดำเนินการที่ซับซ้อน การดำเนินโครงการยาวนาน การตรวจสอบจึงทำได้ยาก จำนวนเงินทุจริตสูงและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นก็มีมากเช่นกัน ต่อจากนี้ไปต้องเข้มในเรื่องนี้ให้มากขึ้นเพื่ออุดรูรั่วของการทุจริตโครงการต่างๆอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามในส่วนของสนามกีฬา จ.นราธิวาสนั้น ได้รับจัดสรรงบฯจำนวน 385 ล้านบาท หน่วยทหารพัฒนาดำเนินการไปแล้ว 204 ล้านบาท ทั้งการก่อสร้างอาคารที่พักและอัฒจันทร์ ลู่วิ่งและปรับถมดิน อีกทั้งศูนย์สร้างทางลำปางให้ผู้รับเหมารายหนึ่งดำเนินการก่อนที่จะถูกทิ้งงาน และต่อมาบริษัทไทยพารากอน คอนสตรัคชั่น จำกัด ได้ MOU กับศูนย์สร้างทาง เพื่อที่จะนำงบที่ถูกปรับลดลงเหลือ 177 ล้านบาทไปดำเนินการก่อสร้างให้เสร็จสิ้น แต่จนถึงขณะนี้ยังคงติดขัดเรื่องการขออนุมัติโครงสร้างเดิมเพื่อที่จะดำเนินการก่อสร้างในส่วนที่เหลือให้แล้วเสร็จสมบูรณ์
ส่วนนายภุชงค์ ขนานสุข ฝ่ายแก้ไขปัญหาของ บ.ไทยพารากอน คอนสตรัคชั่น จำกัด กล่าวว่า ตอนนี้ต้องหาวิธีว่าจะต้องทำอย่างไรให้งานเดินหน้าไปได้ เพื่อทำให้เสร็จโดยไทยพารากอนจะได้ไม่โดนแบ็คลิสต์ ส่วนปัญหาการทุจริตที่แล้วมาว่ากันไปตามขั้นตอน

ภาพ/ข่าวสัญฐิติ ขอจิตต์เมตต์ ทีมข่าว@ชายแดนใต้ จ.นราธิวาส.