ยะลา – ศุลกากรเบตงใช้ระบบออนไลน์ในพิธีการศุลกากร เพื่อให้บริการนำเข้า-ส่งออกสินค้า ด้วยการจัดทำฐานข้อมูลโยงกับหลายหน่วยงาน ป้องกันสินค้าหลบเลี่ยงภาษี และเพื่อความรวดเร็ว ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากรไทยได้ทำการตรวจเข้มสินค้าผ่านแดนและคุมเข้มการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์ม ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเลเซียกำหนดการนำน้ำปาล์มออกราชอาณาจักรเช่นกัน


เมื่อวันที่ 17 พ.ย.ที่ด่านศุลกากรเบตง ชายแดนไทย-มาเลเซีย อ.เบตง จ.ยะลา เจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรเบตงได้มีการตรวจเข้มสินค้าผ่านแดน ด่านศุลกากรเบตง -มาเลเซีย เพิ่มมากขึ้นอย่างเข้มข้น เพื่อป้องกันสินค้าหนีภาษี ที่เป็นสินค้าเถื่อน ไม่มีการเสียภาษีศุลกากร ในการนำเข้าสินค้า โดยมีการสืบสวนปราบปราม ตรวจจับทั้งพื้นที่แนวชายแดน และตามตลาดสดที่มีการจำหน่ายสินค้า ที่มีการลักลอบนำมาขายโดยไม่เสียภาษี
นายภาคภูมิ เลิศวัฒนารักษ์ นายด่านศุลกากรเบตง กล่าวว่า ภายหลัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เน้นย้ำเรื่องการลักลอบนำน้ำมันปาล์มหนีภาษี ภายหลังมีประชาชนร้องเรียนร้านธงฟ้าประชารัฐ ในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้นำน้ำมันปาล์มสำเร็จรูปบรรจุขวดจากมาเลเซียเข้ามาปะปนจำหน่าย ซึ่งในเรื่องนี้ได้เน้นย้ำเจ้าหน้าที่และได้ให้ความสำคัญเกี่ยวกับมาตรการป้องกันปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าและหลบเลี่ยงภาษีรูปแบบต่างๆ โดยเฉพาะการลักลอบน้ำมันปาล์มนำเข้า ซึ่งที่ผ่านมาทางศุลกากรเบตงสามารถจับได้อย่างต่อเนื่อง แต่เป็นเพียงเล็กน้อย ซึ่งไม่ได้เป็นขบวนการแต่อย่างใด เป็นเพียง ซื้อมาใช้ในครัวเรือน


ขณะที่ทางการมาเลเซียได้มีการสกัดการนำออกน้ำมันปาล์มจากประเทศมาเลเซีย เช่นกัน ซึ่งทางการมาเลเซียกำหนดให้นำน้ำมันปาล์มออกราชอาณาจักรได้เพียงเพื่อนำไปใช้ในครัวเรือนเท่านั้น
ด้านเจ้าหน้าที่ศุลกากรเบตง ได้เพิ่มมาตรการตรวจรถยนต์ทุกชนิดอย่างละเอียด ที่นำสินค้าผ่านพรมแดนเข้ามา ต้องผ่านพิธีการศุลกากร หากพบการลักลอบหนีภาษีเข้ามา จะดำเนินคดีทำสำนวนส่งฟ้องศาลพิจารณาความผิดทางอาญา ปรับ 2-4 เท่าของราคาสินค้า โดยไม่มีการเจรจาผ่อนปรน
ภาพ/ข่าว…เจษฎา สิริโยทัย ทีมข่าว@ชายแดนใต้อ.เบตง จ.ยะลา