ผู้แทนพิเศษรัฐบาลเต็มคณะ ประชุมใหญ่ขับเคลื่อนแก้ปัญหาชายแดนใต้
วันที่ 17 ตค. พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เป็นประธานการประชุมผู้แทนพิเศษของรัฐบาล ครั้งที่ 8 ที่ห้องประชุมวิวรรธน์ ปฐมภาคย์ สำนักงานคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ส่วนหน้า ค่ายสมเด็จพระสุริโยทัย จังหวัดปัตตานี โดยมี พลเอกชัยชาญ ช้างมงคล รองหัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาลและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะเข้าร่วมประชุมเต็มคณะ
ซึ่งในวาระแรกที่ทางคณะผู้แทนพิเศษได้ให้ความสำคัญ คือการดำเนินงานประเพณีสารทเดือนสิบ เพื่อให้ที่ประชุมรับทราบ ซึ่งเป็นประเพณีบุญที่ชาวใต้หลายจังหวัดยึดถือปฏิบัติกันมานับร้อยปี ซึ่ง ผู้แทนพิเศษของรัฐบาลได้ให้ความสำคัญขับเคลื่อนและส่งเสริมวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงามของประชาชนทุกกลุ่มเพื่อให้ชายแดนภาคใต้ มีความงดงามในแบบพหุวัฒนธรรมซึ่งจะเป็นที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวและนำรายได้มาสู่ท้องถิ่น
พลเอกสุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ หัวหน้าผู้แทนพิเศษของรัฐบาล เปิดเผยว่า การขับเคลื่อนงานด้านต่าง ๆ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 ที่ผ่านมา ได้แก่ ด้านความมั่นคง ผลักดันให้กำลังประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลความปลอดภัยของชุมชน จัดตั้งชุดคุ้มครองตำบลเพิ่มเติม นำมวลชนญาลันนันบารู 4,517 คน เป็นแกนหลักป้องกันยาเสพติด จัดทำฐานข้อมูลกลางด้านความมั่นคงและทางคดี จัดตั้งศูนย์ยุติธรรมชุมชน 288 ตำบล ขับเคลื่อนการคุ้มครองพยานแก้ปัญหาสถานะบุคคล สิทธิบุคคลไร้รัฐ ไร้สัญชาติ บรรลุเป้าหมายในการสอบสวนคดีความมั่นคงเพิ่มขึ้น ติดตามการใช้งานระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชุมชนศรัทธากำปงตักวา
โดยได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอิสลามทุกจังหวัด จัดตั้งหมู่บ้านชุมชนเข้มแข็ง 120 หมู่บ้าน ด้านการพัฒนา ได้ขับเคลื่อนหลักสูตรในศูนย์การศึกษาอิสลามประจำมัสยิด (ตาดีกา) สถาบันศึกษาปอเนาะ โครงการ 1 สถานศึกษาปอเนาะ 1 ครูอาสา กศน. ได้เพิ่มโอกาสทางการศึกษาทั้งสายสามัญและสายอาชีพ นำกีฬาสู่ระบบการศึกษา สนับสนุนโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ สนับสนุนสังคมพหุวัฒนธรรมสุไหงปาดี ขับเคลื่อนเมืองต้นแบบสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
ด้านการเสริมสร้างความเข้าใจ ได้จัดอบรมความรู้ด้านกฎหมายสิทธิมนุษยชนให้เจ้าหน้าที่ มีการเชิญองค์กรระหว่างประเทศลงพื้นที่เพื่อรับทราบข้อเท็จจริง ดำรงความต่อเนื่องของกระบวนการพูดคุยเพื่อสันติสุขจังหวัดชายแดนภาคใต้ สามารถบรรลุข้อตกลงในการตั้งพื้นที่ปลอดภัยได้แล้ว 1 อำเภอ คือ อำเภอเจาะไอร้อง จังหวัดนราธิวาส ทั้งนี้ได้มีการประเมินผลสัมฤทธิ์การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 โดยศูนย์พัฒนานวัตกรรมด้านการบริหารจัดการ คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่ ใช้แบบสอบถามจากประชาชน ข้าราชการ ผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำทางศาสนา ในพื้นที่จังหวัดปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ 4 อำเภอ ของจังหวัดสงขลา จำนวน 11,474 คน ปรากฏผลสัมฤทธิ์การขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เปรียบเทียบระหว่าง ปี พ.ศ. 2560 กับ ปี พ.ศ. 2561 เพิ่มขึ้นทุกด้านตามแผนภูมิ.
ทีมข่าว @ชายแดนใต้ จ.ปัตตานี
